เทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ทุกพื้นที่ในบ้าน การออกแบบพื้นที่ในปัจจุบันไม่เพียงแค่คำนึงถึงความสวยงาม และความเป็นระเบียบเท่านั้น แต่ยังต้องให้ ความสะดวก ความปลอดภัย และประสบการณ์การใช้งานที่ดีในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทุกมุมในบ้าน ไม่เว้นแม้แต่ในครัว หรือพื้นที่ต่างๆที่เราใช้แบ่งปันช่วงเวลาดีๆให้กับตัวเอง หรือกับครอบครัว และหนึ่งในอุปกรณ์ที่น่าสนใจ ที่เราอยากจะแนะนำให้คุณผู้อ่านได้รู้จักคือชุดชั้นปรับขึ้น-ลง (Smart Lift Basket) คือคำตอบสำหรับการแก้ปัญหาพื้นที่จัดเก็บที่มักจะอยู่สูงเกินเอื้อม หรือซ่อนอยู่ลึกเกินไปจนหยิบใช้งานไม่สะดวก วิธีการทำงานที่เรียบง่าย แต่ทรงประสิทธิภาพ ลองนึกภาพเวลาคุณต้องการหยิบขวดเครื่องปรุง หรือภาชนะจากตู้แขวนสูง โดยปกติคุณอาจต้องปีนเก้าอี้หรือเขย่งเท้าจนเสี่ยงต่อการล้ม แต่ด้วยชุดชั้นปรับขึ้น-ลง สิ่งที่คุณต้องทำคือแค่ : ระบบทำงานด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ได้รับการออกแบบให้ทำงานเงียบ ไม่กระชาก หรือกระตุก ช่วยให้การทำงานของชั้นเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย ให้นึกถึงการนำไปใช้ในห้องแต่งตัวที่คุณสามารถเก็บน้ำหอม เครื่องประดับ หรืออุปกรณ์แต่งหน้าที่ใช้บ่อยไว้ในตู้เหนือศีรษะ และเพียงแค่สัมผัสเดียว ทุกสิ่งก็อยู่ในระยะสายตา และมือ ก็เอื้อให้ทุกเช้าเริ่มต้นอย่างราบรื่น และมีระเบียบมากขึ้น หรือจะเป็นในห้องทำงาน ที่ชั้นวางสามารถซ่อนเอกสารสำคัญ อุปกรณ์ไอที หรือของใช้ที่ไม่ต้องการให้รกโต๊ะ เมื่อใช้งานก็สามารถเรียกออกมาได้อย่างเงียบเชียบ และจัดเก็บได้ง่ายในพริบตา เช่นเดียวกับในห้องนั่งเล่นที่คุณอาจต้องการซ่อนชุดแก้วไวน์ หนังสือ หรือของเล่นเด็กให้พ้นสายตาแต่หยิบใช้ได้ทันทีเมื่อจำเป็น . คุณสมบัติทางเทคนิคที่น่าสนใจ ความหรูหราไม่ได้หมายถึงแค่รูปลักษณ์ แต่ยังรวมถึงประสบการณ์การใช้งานที่รู้สึกถึงความใส่ใจ และการออกแบบที่เข้าใจผู้ใช้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญในทุกชิ้นงาน . ประโยชน์ที่หลากหลายในทุกพื้นที่ของบ้าน ในห้องครัว . ในห้องแต่งตัว . ในห้องทำงาน . […]
Category Archives: ตกแต่งบ้าน
ในโลกของการออกแบบตกแต่งภายใน “ความเรียบง่าย”กลายเป็นเทรนด์ที่ครองใจคนยุคใหม่ ด้วยไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ และการตกแต่งบ้านแนว Minimalist ที่เน้นฟังก์ชันควบคู่ความสวยงาม “ปุ่มจับ” (Knob Handle) จึงเป็นหนึ่งในรายละเอียดเล็กๆ ที่สร้างความแตกต่างให้กับเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างน่าประทับใจ หากคุณกำลังมองหาวิธีเพิ่มจุดเด่นให้ตู้เก็บของโดยไม่ทำให้ห้องดูรก ปุ่มจับคือทางเลือกที่สมบูรณ์แบบ บทความนี้ฟิวเจอร์เทคฯ จะพาคุณไปสำรวจไอเดียการใช้งานปุ่มจับในเฟอร์นิเจอร์ ทั้งในแง่ของดีไซน์ ฟังก์ชันการใช้งาน และเทคนิคการเลือกปุ่มจับให้เหมาะกับสไตล์ห้องของคุณ . ทำไมปุ่มจับถึงเหมาะกับเฟอร์นิเจอร์ยุคใหม่? 1.รูปลักษณ์สะอาดตา ดูไม่รกรุงรัง ในสไตล์ มินิมัลลิสม์ (Minimalist), สแกนดิเนเวียน (Scandinavian) หรือ เจแปนดิ (Japandi) ที่เน้นเส้นสายเรียบง่าย การเลือกใช้ปุ่มจับขนาดเล็กจะไม่ทำให้รบกวนสายตา ทำให้ผนัง และตู้ดูโปร่งโล่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น 2. ใช้งานง่ายและประหยัดพื้นที่ ปุ่มจับเหมาะกับตู้บานเล็ก หรือตู้ในพื้นที่จำกัด ยกตัวอย่าง เช่น 3. ดีไซน์หลากหลาย เปลี่ยนโทนห้องได้ทันที ปุ่มจับมีรูปทรง และวัสดุให้เลือกมากมาย ทำให้ปรับเปลี่ยนสไตล์ห้องได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนตู้ทั้งใบ ยกตัวอย่าง เช่น . ไอเดียตัวอย่างการใช้งานปุ่มจับในพื้นที่ต่างๆ ของบ้าน 1. ห้องนั่งเล่น (Living Room) สไตล์โมเดิร์น (Modern […]
สไตล์ Japandi เป็นแนวทางการออกแบบร่วมสมัยที่ผสมผสานหลักปรัชญาและสุนทรียศาสตร์ของการออกแบบญี่ปุ่น (Japanese) กับรูปแบบการออกแบบสแกนดิเนเวียน (Scandinavian) อย่างลงตัว สไตล์นี้กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในวงการออกแบบตกแต่งภายใน โดยเฉพาะในพื้นที่ห้องครัวที่ต้องการทั้งความสวยงามและประโยชน์ใช้สอย ทำความสะอาดสะดวก เหมาะกับทั้งบ้านขนาดเล็ก และใหญ่ บทความนี้ เราจะพาคุณไปสำรวจไอเดียการแต่งครัวสไตล์ Japandi พร้อมแนะนำเฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์ตกแต่งที่ช่วยเสริมบรรยากาศให้ครัวของคุณดูสมบูรณ์แบบ ไปติดตามอ่านกันค่ะ . แนวคิดพื้นฐานของสไตล์ Japandi การผสมผสานทางวัฒนธรรมการออกแบบ Japandi เป็นการบูรณาการระหว่างสองแนวคิดการออกแบบที่มีหลักปรัชญาคล้ายคลึงกัน ได้แก่ : . ทำความรู้จักสไตล์ Japandi มันคือความลงตัวของ 2 วัฒนธรรม Japandi เป็นการผสมผสานระหว่างความเรียบง่าย และความเป็นธรรมชาติจากญี่ปุ่น และตกแต่งเพิ่มความอบอุ่นรวมถึงฟังก์ชันการใช้งานจากสไตล์สแกนดิเนเวียเข้าไว้ด้วยกัน ลักษณะเด่นของครัว Japandi จะใช้โทนสีธรรมชาติ เช่น สีขาว สีเบจ สีไม้โทนอ่อน โดยนำเอาวัสดุธรรมชาติประเภทไม้ หิน กระเบื้องดินเผา มาเป็นองค์ประกอบ สไตล์นี้จะเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ดูเรียบง่ายไม่มีลวดลายฉูดฉาด ไฮไลค์ที่สำคัญคือจะนำอุปกรณ์ฟังก์ชันแบบซ่อนได้มาช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของให้เป็นระเบียบ ในส่วนของแสง จะเปิดพื้นที่ให้ได้รับแสงธรรมชาติโดยใช้หน้าต่างบานใหญ่ หรือไฟ LED ส่องสว่างแบบนุ่มนวล . ลักษณะเด่นของสไตล์ Japandi . ไอเดียการออกแบบห้องครัวสไตล์ Japandi […]
ดังนั้นการจัดวางสิ่งของต่างๆ ในห้องครัวจึงต้องคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอย ความสะดวกสบาย และความสวยงาม หนึ่งในสิ่งของที่มักถูกมองข้ามแต่มีความสำคัญมากคือ “ถังขยะ” ซึ่งหากวางไม่ถูกที่ หรือเลือกใช้ไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมาได้ ในบทความนี้เราจะพูดถึงปัญหาที่หลายคนมักจะเจอเกี่ยวกับถังขยะที่วางตั้งในห้องครัว รวมถึงเราจะแนะนำไอเดียทางออกด้วยการเลือกใช้ถังขยะแบบซ่อนในตู้ เพื่อให้ห้องครัวดูดีมีระเบียบ และใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้นกันค่ะ . ปัญหา และข้อเสียของการใช้ถังขยะที่วางตั้งในห้องครัว 1. พื้นที่ครัวดูรก และไม่เป็นระเบียบ ถังขยะที่วางตั้งในห้องครัวมักเป็นจุดดึงดูดสายตาในเชิงลบ โดยเฉพาะในห้องครัวขนาดเล็กที่มีพื้นที่จำกัด การวางถังขยะในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมจะส่งผลให้พื้นที่ดูรก และไม่เป็นระเบียบ 2. กลิ่นขยะกระจายทั่วห้องครัว ปัญหานี้พบได้บ่อยในห้องครัวที่ระบบระบายอากาศไม่เพียงพอ มักประสบปัญหากลิ่นรบกวนจากถังขยะ โดยเฉพาะเมื่อถังขยะถูกวางใกล้พื้นที่เตรียมอาหารและไม่มีฝาปิดมิดชิด 3. ความไม่สะดวกในการใช้งาน การวางถังขยะไว้ในตำแหน่งไม่เหมาะสมอาจสร้างความไม่สะดวกให้กับผู้ใช้งานเช่น ต้องเดินอ้อมไปทิ้งขยะ หรือต้องใช้มือสัมผัสฝาถังขยะซึ่งไม่สะถูกสุขลักษณะ 4. ทำลายความสวยงามของการตกแต่งห้องครัว ถังขยะที่วางอยู่กลางห้องครัวมักเป็นจุดดึงดูดสายตาในเชิงลบ โดยเฉพาะถังขยะที่มีสีสัน หรือรูปแบบที่ไม่เข้ากับสไตล์การตกแต่งของห้องครัวทำให้การตกแต่งดูไม่สวยงาม 5. ความยากในการทำความสะอาด ถังขยะที่ตั้งไว้กลางห้องครัวมักทำให้การทำความสะอาดเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะถังขยะที่ไม่มีระบบป้องกันการรั่วซึม ส่งผลให้พื้นครัวสกปรกและต้องทำความสะอาดบ่อยครั้ง . ข้อดีของการใช้ถังขยะแบบซ่อนในตู้ การติดตั้งถังขยะแบบซ่อนในตู้ครัวเป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากช่วยแก้ปัญหาน่าหงุดหงิดใจในการใช้ถังขยะแบบเดิมๆ ทั้งยังมีประโยชน์ที่คุ้มค่ามากมายที่น่าสนใจหลายประการ 1. เพิ่มความสวยงาม และเป็นระเบียบ ถังขยะแบบซ่อนในตู้ครัวช่วยให้พื้นที่ครัวดูสะอาดตา และเป็นระเบียบมากขึ้น โดยไม่มีถังขยะมากีดขวางหรือทำให้พื้นที่ดูรก สิ่งนี้ช่วยให้ครัวดูโปร่งสบาย และทันสมัยมากขึ้น […]
การจัดการพื้นที่ครัวให้เป็นระเบียบและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพถือเป็นความท้าทายสำคัญในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่เวลาเป็นทรัพยากรอันมีค่า การเลือกใช้อุปกรณ์ตะแกรงสำหรับตู้ครัวติดผนังจึงเป็นทางออกที่ช่วยเพิ่มทั้งความสะดวกสบายและประสิทธิภาพในการใช้งานพื้นที่ จะหยิบหาอะไรก็สะดวก ไม่เสียอารมณ์ เพราะทุกชิ้นถูกจัดวางอย่างเป็นระบบ และที่สำคัญคือช่วยให้ใช้พื้นที่ทุกมุมได้อย่างคุ้มค่า หาของใช้เจอง่าย ประหยัดเวลา และลดความยุ่งยาก . “มองเห็นง่าย หยิบใช้สะดวก” ระบบตะแกรงที่ออกแบบอย่างเหมาะสมช่วยจัดวางอุปกรณ์ครัวทุกชิ้นให้เห็นชัดเจน ทั้งวัตถุดิบ เครื่องปรุง และภาชนะต่างๆ คุณสามารถหยิบใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาค้นหา และยังช่วยบริหารจัดการสต็อกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลองจินตนาการดูว่าเมื่อเปิดตู้ครัวติดผนัง คุณจะเห็นทุกอย่างเรียงอยู่เป็นระเบียบ ไม่ว่าจะเป็นข้าวของสต๊อก ขวดโหล กระป๋อง หรือจานชาม ทุกอย่างอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม สำหรับตู้ครัวที่ติดตั้งสูง ฟังก์ชันดึงตะแกรงลงมาช่วยเพิ่มความสะดวกให้ทุกคนในครอบครัว โดยไม่ต้องใช้บันไดหรือเก้าอี้ที่อาจเกิดอันตราย เพียงดึงที่จับเบาๆ ตะแกรงจะเคลื่อนลงมาให้หยิบของได้สะดวก และเมื่อใช้เสร็จก็ดันกลับเข้าที่เดิมได้อย่างนุ่มนวล . “ปัญหาของตู้ติดผนังที่อยู่สูง และวิธีแก้ไข” ความท้าทายหลักของตู้ครัวติดผนังคือการเข้าถึงพื้นที่จัดเก็บที่อยู่สูงเกินไป ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคสำหรับผู้ใช้งาน นวัตกรรมตะแกรงที่มีระบบดึงลงหรือยื่นออกมาจึงเป็นการแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพ โดยระบบจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถดึงตะแกรงลงมาในระดับที่เหมาะสม ง่ายต่อการจัดวางหรือหยิบใช้อุปกรณ์ และเมื่อใช้งานเสร็จ ก็สามารถดันกลับเข้าที่ได้อย่างนุ่มนวลด้วยระบบ Soft Close นวัตกรรมนี้ไม่เพียงเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากการปีนป่ายเพื่อหยิบของในตู้สูง . แนะนำอุปกรณ์ชุดตะแกรงอเนกประสงค์ 1. ชุดตู้แขวนบานเปิด-ปิด หน้าบานอัตโนมัติ Smart Kitchen Touch to Open No.555001800 […]
ห้องครัวถือเป็นพื้นที่สำคัญของบ้านที่มากกว่าใช้ทำอาหาร แต่ยังเป็นพื้นที่รวมตัวของสมาชิกในครอบครัว การจัดระเบียบห้องครัวให้เป็นระเบียบและมีฟังก์ชันใช้งานที่ดีไม่เพียงช่วยอำนวยความสะดวกในการทำอาหารเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อคุณภาพชีวิตโดยรวม ทำให้บรรยากาศของบ้านดีขึ้นอีกด้วย บทความนี้เราขอนำเสนอแนวทางจัดระเบียบห้องครัวอย่างเป็นระบบ ระเบียบ โดยเน้นการใช้ประโยชน์จากพื้นที่แนวตั้ง พื้นที่ซ่อนเร้น และอุปกรณ์เสริมต่างๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วยการเลือกใช้ไอเทมช่วยจัดเก็บเช่น ชุดแขวนใต้ตู้ลอยติดผนัง, ชุดตะแกรงเก็บของติดผนัง, ตะแกรงอเนกประสงค์สำหรับคว่ำจานชามและกระทะ, ถาดใส่ช้อนส้อม และชุดชั้นเก็บอุปกรณ์ ฯลฯ ที่จะช่วยเปลี่ยนห้องครัวของคุณให้เป็นพื้นที่ ที่เป็นระเบียบ สวยงาม และตอบโจทย์การใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้นค่ะ . ประโยชน์ของการจัดระเบียบห้องครัว 1. เพิ่มพื้นที่ใช้งาน ห้องครัวที่ขาดการจัดระเบียบมักประสบปัญหาพื้นที่ใช้งานไม่เพียงพอ เช่นมีสิ่งของวางซ้อนทับกันบนเคาน์เตอร์ ทำให้พื้นที่ทำอาหารลดลง การจัดระเบียบด้วยชั้นวางแบบแขวน ตะแกรง และลิ้นชักแบบซ่อน จะช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด . 2. ลดความยุ่งเหยิง และความเครียด งานวิจัยด้านจิตวิทยาสิ่งแวดล้อมชี้ให้เห็นว่า พื้นที่ที่มีความเป็นระเบียบส่งผลเชิงบวกต่อสุขภาพจิต ห้องครัวที่เป็นระเบียบช่วยลดความเครียดโดยไม่รู้ตัว ทำให้สามารถหาสิ่งของได้ง่าย ลดเวลาในการค้นหา และสร้างบรรยากาศที่สงบน่าอยู่ . 3. ทำอาหารได้สะดวกขึ้น ลองนึกภาพการทำอาหารที่ต้องค้นหามีด กระทะ หรือเครื่องปรุงทุกครั้งที่ใช้งาน เทียบกับครัวที่ทุกอย่างจัดอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม คุณจะพบว่าการทำอาหารสนุกขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้นจริงๆ . 4. ช่วยรักษาความสะอาด และสุขอนามัย การจัดเก็บภาชนะ และอุปกรณ์ครัวที่เหมาะสมช่วยลดการสะสมของฝุ่นและเชื้อโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบจัดเก็บที่แยกประเภทชัดเจน […]
เทรนด์การตกแต่งบ้านในปี 2568 ที่จะมาแน่ๆคือ การผสมผสานความยั่งยืนเข้ากับเทคโนโลยีที่ทันสมัย กลายเป็นบ้านที่สวยงามน่าอยู่ ในขณะ เดียวกันก็เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ การออกแบบตกแต่งบ้านได้กลายเป็นส่วนสำคัญของไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ที่สะท้อนถึงความต้องการในการใช้ชีวิตอย่างมีสไตล์ แต่ยังคงคำนึงถึงเรื่องของความยั่งยืน และสุขภาพจิตด้วย เทรนด์การออกแบบในปีนี้ จึงเน้นการสร้างพื้นที่ ที่สวยงามและใช้งานได้จริง โดยผสมผสานเทคโนโลยีเข้ากับธรรมชาติ และใช้สีสันที่ช่วยสร้างบรรยากาศผ่อนคลายเข้ามาเป็นองค์ประกอบหลัก เรามาอัปเดตเทรนด์ออกแบบตกแต่งบ้านปี 2568 ว่ามีอะไรที่น่าสนใจกันค่ะ . 1. เน้นการใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม . 2. เทคโนโลยี Smart Home ผู้ผลิต และวิจัยเทคโนโลยี Smart Home ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถควบคุมระบบต่างๆภายในที่อยู่อาศัยเช่น ระบบแสงสว่างอัจฉริยะ ผ่านเซ็นเซอร์อินฟราเรด เซ็นเซอร์การจับสัญญาณความเคลื่อนไหว, ระบบควบคุมอุณหภูมิผ่านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต IOT เพื่อการควบคุมคำสั่งเปิดปิดเครื่องปรับอากาศผ่านสมาร์ทโฟน, ระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะ, ระบบเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ, ระบบควบคุมด้วยเสียง ฯลฯ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีต่างๆ เหล่านี้ล้วนทำให้เรามีชีวิตสะดวกสบายขึ้น . 3. การออกแบบภายในแบบเปิดพื้นที่ การออกแบบเพื่อประหยัดพลังงาน และนำวัสดุที่ช่วยในการประหยัดพลังงานมาใช้เช่น ฉนวนกันความร้อนจากวัสดุธรรมชาติ หรือกระจกประหยัดพลังงาน รวมถึงการออกแบบบ้านให้มีระบบระบายอากาศที่ดี เปิดโล่ง และใช้แสงธรรมชาติให้มากขึ้น พร้อมเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในบ้าน โดยการเพิ่มต้นไม้ในลักษณะสวนแนวตั้งเพื่อช่วยฟอกอากาศ และสร้างบรรยากาศที่สดชื่น ที่สำคัญอีกเรื่องของการออกแบบภายในที่เป็นเทรนด์ ในปี 2568 คือจะมีการใช้แนวทางการออกแบบตกแต่งแบบ Multifunctional Spaces คือทำให้รูปแบบของเฟอร์นิเจอร์สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย […]
ดีไซน์ที่ถูกผสมผสานกันอย่างลงตัวกับธรรมชาติ เฟอร์นิเจอร์รูปทรงเรขาคณิตที่เข้าถึงได้ง่าย เส้นสายที่มีความเรียบง่ายตรงไปตรงมา ใช้โทนสีหลักพวกพาสเทล (Pastel) หรือสีเอิร์ทโทน (Earth Tone) แต่ใส่ความสนุก และสร้างเอกลักษณ์ลงไปที่เฟอร์นิเจอร์ตัวโปรดสักชิ้นด้วยสีที่โดดเด่นได้ เป็นดีไซน์ที่ไม่ต้องคุมโทนตามแพตเทิร์น ถ้าคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่ชื่นชอบความรู้สึกในอดีต ชอบความ Vintage แต่ไม่ชอบความฟุ้ง ความเกินในงานออกแบบสไตล์ Midcentury Modern ก็เป็นอีกหนึ่งสไตล์ที่อยากแนะนำสำหรับการแต่งบ้านของคุณ วงการแฟชั่นไม่เคยมีอะไรล้มหายตายจากไปจริงๆ สิ่งเคยฮิตที่เชยลงในวันหนึ่งก็มักจะกลับมากลายเป็นกระแสหลัก และมันมักจะวนกลับมาหาเราอีกครั้งเสมอโดยอาจใช้เวลาห้าปี สิบปี หรือหลายสิบปี เช่นเดียวกับเทรนด์แต่งบ้านที่ก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน สไตล์ “Mid-Century Modern” ที่เคยได้รับความนิยมมากในช่วงสงครามโลกได้กลับมาครองใจผู้คนอีกครั้งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แม้อาจจะถูกกลบด้วยกระแสของการออกแบบตกแต่งสไตล์ อื่นๆ เช่น Industial Loft , Minimalist , Scandinavian Style ฯลฯ แต่ยังไงมันก็ไม่เคยจมหายไปไหน และกลับมาฮิตถึงขีดสุดอีกครั้งในตอนนี้ โดยที่เราจะสังเกตเห็นว่าบรรดาร้านคาเฟ่ ร้านอาหาร สตูดิโอ หรือแม้แต่ที่พักอาศัย ก็เริ่มมีเฟอร์นิเจอร์ และการตกแต่ง ที่บ่งบอกถึงความเป็น Mid-Century กลับมาเป็นกระแสกันมากอีกครั้ง ในบทความนี้ฟิวเจอร์เทคฯ จะชวนคุณมาทำความรู้จักกับการออกแบบตกแต่งบ้านสไตล์นี้กันค่ะ . Mid-Century Modern เกิดขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 ได้รับอิทธิพลจากงานสไตล์ […]
ไม่ว่าใครๆก็อยากมีบ้านที่ใหญ่โต ดูโล่ง และกว้างขวาง แต่จะทำยังไงดี ในเมื่อเรามีพื้นที่จำกัด ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่บ้านที่จำกัด หรืออาจจะอยู่คอนโดมิเนียม บทความนี้ฟิวเจอร์เทคฯ ได้รวบรวมแนวทางแต่งบ้านแคบๆ ให้สวย เพิ่มพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น ห้องดูกว้างขึ้น โปร่ง โล่ง ไม่อึดอัด จะมีเทคนิคอะไรบ้างนั้นไปดูกันค่ะ 1. เทคนิคการใช้สีทาห้อง หากห้องของคุณมีพื้นที่คับแคบ สีผนังและสีเพดานจะเป็นตัวช่วยปรับบรรยากาศของความรู้สึกได้มาก โดยปกติจะแนะนำให้ใช้สีโทนสว่าง หรือโทนอ่อน เพราะความสว่างจะให้ความรู้สึกกว้างกว่าเดิม และสีอ่อนก็เป็นการช่วยกระจายแสงสว่าง รวมถึงสะท้อนแสงธรรมชาติเข้ามาภายในห้อง ทั้งนี้การเลือกเฉดสีที่ถูกต้องยังทำให้เราเลือกเฟอร์นิเจอร์แต่งห้องได้ง่ายขึ้นอีกด้วย จึงถือได้ว่าเทคนิคห้องมีพื้นที่แคบ การเปลี่ยนสีห้องถือเป็นหนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุด และใช้งบประมาณน้อยที่สุดในการปรับเปลี่ยนบรรยากาศได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ยังมีรายละเอียดด้านเทคนิคที่น่าสนใจในการใช้สีเพื่อที่จะทำให้ดูห้องกว้างขึ้น ลองอ่านแล้วไปประยุกต์ใช้กันดูนะคะ . สีในโทนสว่างสามารถสะท้อนแสงได้มากกว่าสีโทนเข้ม จึงเป็นโทนสีที่ทำให้ห้องดูกว้างขึ้น ห้องที่ทาด้วยสีโทนสว่างให้ความรู้สึกสะอาด โปร่ง โล่งสบายตา ทำให้เมื่ออยู่ในห้องแล้วไม่รู้สึกอึดอัด และทำให้รู้สึกเหมือนมีพื้นที่กว้างขึ้นนั่นเอง โดยวิธีที่ง่ายที่สุดก็คือใช้โทนสีสว่างทาฝาผนัง และฝ้าเพดานเป็นเฉดเดียวกันก็จะช่วยหลอกตาให้ห้องดูกว้างขึ้นได้เป็นอย่างดี สำหรับบางคน การทาสีผนังด้วยสีเดียวกันทั้งหมดอาจดูน่าเบื่อเกินไป ดังนั้นการเลือกใช้โทนสีที่ใกล้เคียงกันก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มสีสันให้กับห้อง และทำให้ห้องดูกว้างขึ้นในเวลาเดียวกัน โดยทางทฤษฎีสีนั้นสามารถเลือกจับคู่สีได้สองแบบคือ Monochromatic เทคนิคการจับคู่สีที่เป็นที่นิยมในหมู่นักออกแบบ เป็นการเลือกสีหลักขึ้นมาหนึ่งสี และนำไปปรับให้เข้มหรืออ่อนลงเพื่อใช้เป็นคู่สี เช่น ใช้สีฟ้าเป็นสีหลัก และใช้สีฟ้าอ่อนและสีน้ำเงินเป็นสีรอง เฉดสีที่ไม่ต่างกันจนเกินไปนั้น นอกจากจะดูสบายตาและเข้ากันได้ดีแล้ว ยังช่วยเพิ่มมิติให้กับห้องได้เป็นอย่างดี […]
เมื่อพูดถึงการสร้างทางเข้าที่ยิ่งใหญ่ โอ่อ่า ประตูหมุนเป็นประตูที่ยืนหนึ่งในเรื่องนี้อย่างแท้จริง! มันเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางสถาปัตยกรรมที่น่าประทับใจที่ทำให้ทางเข้าบ้าน ออฟฟิศสำนักงาน และพื้นที่เชิงพาณิชย์ ฯลฯ ด้วยลักษณะการออกแบบที่ทำให้เกิดความรู้สึกพิเศษอย่างเป็นเอกลักษณ์ และรวมถึงประโยชน์ใช้สอยแล้ว ต้องยอมรับเลยว่าไม่แปลกใจที่มันเป็นประตูร่วมสมัยที่ผู้คนยังคงนิยมเลือกใช้มายาวนาน ประตูบานหมุน Pivot Doors หรือที่นิยมเรียกอีกชื่อว่า “Center-hung Doors” เป็นประตูบานสวิงเดี่ยวขนาดใหญ่ประเภทหนึ่งที่หมุนที่กึ่งกลางของประตู แทนที่จะเป็นบานพับที่ติดตั้งด้านข้าง กลไกที่เป็นเอกลักษณ์นี้ช่วยให้ประตูหมุนได้อย่างราบ ประตูเหล่านี้มีชื่อเสียงในด้านความน่าดึงดูดใจด้านสุนทรียศาสตร์ เนื่องจากบานประตูเหล่านี้แสดงออกถึงความยิ่งใหญ่ และความซับซ้อน พวกมันทำหน้าที่เป็นจุดโฟกัส และดึงดูดความสนใจของใครก็ตามที่จ้องมองประตูในทันที และการที่มันออกแบบให้ไม่มีบานพับที่มองเห็นได้ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มรูปลักษณ์ที่เพรียวบาง และความทันสมัย ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมในหมู่สถาปนิกและนักออกแบบภายในที่ต้องการสร้างบรรยากาศร่วมสมัยขึ้นมา . ข้อดีของการใช้ประตูหมุน 360° 1. ให้คุณสมบัติประหยัดพื้นที่ภายในบ้านได้ ประตูหมุนใช้พื้นที่น้อยเนื่องจากไม่ต้องใช้บานสวิงแบบดั้งเดิม จึงเหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดเล็ก และพื้นที่ที่มีขนาดจำกัด 2. ช่วยให้การเข้าถึงที่ง่ายมากขึ้น ประตูเหล่านี้เปิดง่าย ทำให้ทุกคนเข้าถึงพื้นที่ได้ง่าย . 3. มีความสุนทรียภาพ และความทันสมัย ประตู Pivot ช่วยเพิ่มสัมผัสแห่งความซับซ้อน และสไตล์ร่วมสมัยให้กับทุกพื้นที่ มันสามารถใช้เป็นองค์ประกอบจุดเด่นสำคัญในการออกแบบตกแต่งภายในให้ดูโอ่อ่า ลึกลับ หรูหราได้ 4. ความคล่องตัวในการออกแบบ ด้วยวัสดุ พื้นผิว […]