How to ตกแต่งห้องรับแขกสไตล์ Home Cafe

อีกหนึ่งสไตล์การแต่งบ้านที่คนส่วนใหญ่เริ่มให้ความสนใจ คือการแต่งบ้านสไตล์คาเฟ่ หรือ Home Cafe ด้วยเสน่ห์หลักคือ การเนรมิตบรรยากาศที่ให้ความรู้สึกเก๋ๆ ชิวๆ ผ่อนคลาย โดยดีไซน์จัดแต่งองค์ประกอบไปตามสไตล์ และตกแต่ง Mood & Tone ให้ตอบโจทย์ด้านอารมณ์ และความต้องการในด้านการใช้งานบริเวณห้องรับแขกของบ้าน เพื่อเป็นที่สำหรับให้สมาชิกในครอบครัวมารวมตัว และนั่งเสพบรรยากาศฟีลคาเฟ่เก๋ๆ ไปด้วยกัน

ในบทความนี้ ฟิวเจอร์เทคฯ จะนำแนวคิด ไอเดีย และเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถนำมาใช้ในแต่งห้องรับแขกในบ้าน ให้มีบรรยากาศความเป็นคาเฟ่มาให้ดู เผื่อใครที่สนใจการแต่งบ้านสไตล์โฮมคาเฟ่ จะได้นำไอเดียเก๋ๆ ไปต่อยอดในการจัดบ้านกันดูนะคะ

.

How to 1. แนวคิดในการตกแต่งห้องรับแขกให้เป็นโฮมคาเฟ่

เราต้องหาสไตล์ที่ต้องการให้เจอก่อน ห้องรับแขกเป็นอีกจุดสำคัญของบ้าน เพราะเป็นสถานที่เรามักจะใช้พบปะผู้คน ทั้งครอบครัวที่มาเยี่ยมบ้าน เพื่อนที่มาสังสรรค์ในวันหยุด หรือเป็นสถานที่ลูกคนโปรดมาทำกิจกรรม การตกแต่งอย่างใส่ใจจะทำให้ห้องรับแขกของคุณเป็นห้องสุดเพอร์เฟคสำหรับทุกสถานการณ์ได้ สิ่งสำคัญคือ เราต้องหาสไตล์ของคาเฟ่ที่ต้องการให้ได้ เพื่อจะได้ทำการตกแต่ง และเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ตอบโจทย์ มาลองดูภาพ และข้อมูลสไตล์คาเฟ่ในฝันเป็นไอเดียกันนะคะ

  • Minimal Style (มินิมอล สไตล์)

จุดเด่นของการตกแต่งในสไตล์ มินิมอล เน้นฟังก์ชันการใช้งานเป็นหลัก โดยเลือกเอาทุกอย่างที่ไม่จำเป็นออกไปให้หมด และเหลือไว้ แต่ส่วนประกอบที่จำเป็นเท่านั้น รูปแบบของเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ตกแต่งจึงมีลักษณะที่เรียบง่าย และเน้นสีธรรมชาติเป็นหลัก โดยมักจะมีโทนสีแบบโมโนโทนหรือสีอ่อนๆ รวมถึงการออกแบบที่มีเส้นสายตาที่มีความสมดุล และความผ่อนคลาย เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นที่คัดสรรมาตกแต่งในห้องรับแขกให้เป็นสไตล์โฮมคาเฟ่นี้ มักจะตอบสนองการใช้งานได้อย่างครบถ้วน ท่ามกลางความไม่มากไม่น้อยจนเกินพอดี การตกแต่งสไตล์ มินิมอลยังนิยมที่จะจัดพื้นที่สเปซให้มีความว่าง และดูกว้างเข้าไว้ โดยไม่นิยมการสะสมสิ่งของ หรือข้าวของเครื่องใช้ที่ไม่จําเป็น การตกแต่งห้องรับแขกให้เป็นคาเฟ่สไตล์มินิมอลจึงดูเรียบง่าย น้อยชิ้น แต่ทว่าครบถ้วนในเรื่องของประโยชน์การใช้สอย

  • French Vintage Style (วินเทจ ฝรั่งเศส สไตล์)

จุดเด่นของการตกแต่งในสไตล์ French Vintage Cafe คือจะมีความ Cozy บรรยากาศสบายๆ น่าอยู่ ชวนผ่อนคลายเป็นหลัก ถูกออกแบบพื้นที่อย่างเรียบง่ายเพื่อใช้งานตามความเหมาะสม ไม่ดูโอ่อ่าจนเกินไป เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากวัสดุเนื้อไม้จริงในโทนสีอ่อน ตัดกับข้าวของเครื่องใช้ที่ชวนให้นึกถึงบ้านชนบทของประเทศทางแถบยุโรป ให้ความรู้สึกอบอุ่นสบายตา

  • Industrial Loft Style (อินดัสเทรียล ลอฟท์ สไตล์)

จุดเด่นของการตกแต่งในสไตล์ Industrial Loft เป็นการออกแบบและตกแต่งที่ผสมผสานระหว่างศิลปะ และวิศวกรรมได้อย่างลงตัว โดยหัวใจสำคัญของการออกแบบห้องรับแขกให้เป็น Home Cafe แนวนี้คือ การโชว์ความดิบของพื้นผิว และวัสดุที่ใช้ในการตกแต่งเช่น เหล็ก ไม้ อิฐ ปูน คอนกรีต นอกจากนี้ยังมีการโชว์โครงสร้างที่ตั้งใจจะทำให้ดูเหมือนทำไม่เสร็จอีกด้วย

  • Eclectic Style (อิเคล็คติก สไตล์)

จุดเด่นของการตกแต่งสไตล์ Eclectic คือการรวมเอาความโมเดิร์นและความคลาสสิกของตกแต่งแบบวินเทจมาไว้ด้วยกัน เหมาะเป็นพิเศษกับบ้านที่ชื่นชอบเฟอร์นิเจอร์แอนทีค (Antique Furniture) เพราะสามารถนำมาใช้ตกแต่งในห้องรับแขกเพื่อสร้างบรรยากาศ Eclectic Style Cafe ในห้องรับแขกภายในบ้านได้อย่างลงตัว

  • Rustic Style (รัสติค สไตล์)

จุดเด่นของการตกแต่งในสไตล์รัสติค คือเผยให้เห็นพื้นผิวที่เป็นเนื้อแท้ หรือธรรมชาติของวัสดุนั้นๆ และปล่อยให้เป็นไปตามกาลเวลา รวมถึงเป็นการตกแต่งแบบมิกซ์แอนด์แมทช์ระหว่างของเก่า และของใหม่ให้เกิดความลงตัวมากที่สุด เป็นรูปแบบการตกแต่งที่ยอมให้ทุกวัสดุ ในบ้าน มีการเปลี่ยนแปลงสภาพไปตามกาลเวลา ไม่ว่าจะเป็นไม้พื้น ผนัง หรือฝ้า ผนังอิฐก่อโชว์แนว ผนังคอนกรีตขัดมัน หรือแม้แต่งานเหล็กที่ตกแต่งในบ้าน ซึ่งร่องรอยของความเก่านี้เองคือเสน่ห์ของสไตล์รัสติค

ใครที่มีบ้านสไตล์ลอฟ์ทอยู่แล้ว จะเป็นเรื่องง่ายในการแต่งห้องรับแขกเป็นคาเฟ่รัสติคสไตล์ โดยอาจจะเพิ่มความโดดเด่นเป็นพิเศษ ในการตกแต่งด้วยโทนสีขาว เทา ดำ หรือน้ำตาล จะทำให้ได้บรรยากาศคาเฟ่สวยงามแบบเรียบง่ายที่ซ่อนความเท่ไว้

  • Cozy Loft Style (โคซี่ สไตล์)

ความสนุกของการตกแต่งแบบคาเฟ่สไตล์นี้คือการหยิบจับวัสดุหลายๆ ชนิดที่มีลวดลายและเท็กเจอร์ต่างกันมาผสมผสานให้ดูไม่ดิบเกินไป แต่ยังมีกลิ่นอายที่จับต้องได้ อย่างการเลือกลามิเนตลายไม้และลามิเนตลายปูนเปลือยเซาะร่องมาอยู่ด้วยกัน เพิ่มความมีมิติไว้ที่ผนังฝั่งหลังโซฟา ข้อดีของการใช้วัสดุทดแทนคือไม่ต้องกังวลเรื่องฝุ่นผงที่เกิดจากการเสื่อมของวัสดุ ส่วนผนังฝั่งตรงข้ามตกแต่งโดยใช้กระจกเงาตัดแสงสีดำที่มีผิวสัมผัสมันวาวกรุทับช่วยหลอกตาให้ห้องดูลึกแต่ไม่แยงตา สร้างลุคที่ทันสมัยได้เป็นอย่างดี

หลังจากที่เราเลือกสไตล์ได้แล้ว สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการตกแต่งห้องรับแขกให้เป็นโฮมคาเฟ่โดยที่ไม่ว่าจะให้ออกมาเป็นสไตล์ไหนก็ตามคือ การที่เราจะต้องทำให้ภาพรวมสามารถผสมผสานกับบ้านอยู่อาศัยได้อย่างกลมกลืน โดยเราจะต้องให้ความสำคัญกับการนำสไตล์ และธีมที่เลือก มาคุมโทนการตกแต่งในห้องรับแขกของเราให้ดี และหากสไตล์ที่เลือกนั้นมีความแตกต่างกับภาพรวมที่เป็นสไตล์หลักของบ้านมาก ก็อาจจะต้องทำเรื่องของสเต๊ปพื้นที่ให้ช่วยแยกความแตกต่าง หรือการใช้ฉากมากั้น รวมถึงการใช้ของตกแต่งเพื่อเชื่อมโยง Mood & Tone เพื่อทำให้ภาพรวมของบ้านมีดีไซน์ที่สมดุลขึ้น

.

How to 2. ไอเดียในการตกแต่งห้องรับแขกให้เป็นโฮมคาเฟ่

  • ให้ความสำคัญกับโทนสี โดยมากการแต่งบ้านให้เหมือนร้านกาแฟนั้นอันดับแรกที่ต้องคำนึงถึงเลยก็คือ โทนสี ลองนึกถึงในร้านกาแฟที่เราไปนั่งเป็นประจำซึ่งมีคอนเซ็ปการตกแต่งต่างกันไป แต่สิ่งหนึ่งที่มักจะเห็นเป็นเอกลักษณ์ภาพจำคือ ชุดสี ชุดสีที่นิยมใช้มากที่สุดคือ น้ำตาล ครีม ดำ เหลือง ซึ่งการนำเสนอสีเหล่านี้ เพราะมันมีความใกล้เคียงกับเมล็ดกาแฟคั่วสีน้ำตาลเข้ม ครีม นม นั่นเอง ทั้งนี้ทำให้รูปแบบของการตกแต่งห้องรับแขกในบ้านให้เป็นฟีลคาเฟ่ที่ได้รับความนิยมส่วนใหญ่ จึงเป็นสไตล์อินดัสเทรียล ซึ่งเป็นหนึ่งสไตล์ที่ถูกหยิบยืมไปตกแต่งภายในร้านกาแฟที่เราพบเห็นบ่อยๆ ดังนั้นถ้านึกอะไรไม่ออกให้ลองปรับเปลี่ยนโทนสีห้อง โดยใช้ชุดสีเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นก่อนได้ค่ะ
  • สร้างจุดดึงดูดสายตา หรือจุดโฟกัสที่จะทำให้ห้องรับแขกของเราน่าสนใจมากขึ้น โดยมากในการออกแบบตกแต่งภายในไม่ว่าจะเป็นห้องชนิดไหน เราสามารถสร้างจุดโฟกัสได้โดยการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ๆ แล้วเรายังสามารถเลือกใช้ของตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ สำหรับการออกแบบห้องนั่งเล่นให้มีบรรยากาศคาเฟ่ อาจเลือกใช้องค์ประกอบเฟอร์นิเจอร์ประเภทโซฟา หรือเก้าอี้นั่งเก๋ๆ และการใช้ภาพวาดที่มีเอกลักษณ์ในการตกแต่ง หรือรูปภาพที่สื่อถึงความเป็นเรา ครอบครัวของเราเป็นจุดดึงดูดสายตาได้ ทั้งนี้รูปภาพแต่ละรูปย่อมมีการสื่อความหมายที่แตกต่างกัน เราอาจเลือกอารมณ์ของรูปที่บ่งบอกถึงตัวตนของเรา หรือเป็นบรรยากาศที่บันทึกความทรงจำที่ดีเอาไว้ ทั้งนี้การนำรูปภาพมาตกแต่งห้องรับแขกสไตล์คาเฟ่ในบ้านจะเป็นการช่วยเพิ่มความอบอุ่น และทำให้ห้องรับแขกดูมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร
  • ทั้งนี้วิธีการเลือกรูปนั้นเราจะต้องเลือกรูปภาพที่มีโทนสีสันสอดคล้องกับสไตล์โฮมคาเฟ่ที่ออกแบบไว้ อาจตกแต่ง ตัดต่อรูปภาพให้มีความเป็นอาร์ท เพื่อให้อารมณ์ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป อาทิ ทำภาพเป็นโทนขาวดำ ก็จะเหมาะกับห้องนั่งเล่นคาเฟ่สไตล์โมเดิร์นลอฟท์ ส่วนภาพที่มีเป็นโทนกราฟฟิคจะเหมาะกับห้องรับแขกสไตล์ลอฟท์ เป็นต้น และไม่ใช่แค่รูปภาพ แต่หมายรวมถึงกรอบรูปที่จะช่วยสร้างความสะดุดตาให้กับห้องรับแขก ซึ่งเราควรเลือกให้เข้ากับสไตล์ และทริคพื้นฐานคือการใช้กรอบรูปโทนสีขาว สีดำ หรือกรอบรูปไม้ที่สามารถเข้ากับภาพได้หลากหลายรูปแบบ ศูนย์รวมของโฟกัส และทำได้มากสุดไม่เกิน 3 จุด เพื่อไม่ให้แต่ละส่วนแย่งกันดึงดูดสายตามากเกินไป และสิ่งที่เลือกมาใช้ตกแต่งนั้นควรจะต้องช่วยทำหน้าที่สะท้อนสไตล์ที่ชัดเจนของความเป็นโฮมคาเฟ่แบบที่เราต้องการออกมาได้
  • เพิ่มต้นไม้สีเขียวให้กับห้องรับแขก ไม่ว่าเราต้องการจะออกแบบห้องรับแขกให้เป็นโฮมคาเฟ่สไตล์ไหนก็ตาม การเติมความสดใสสบายตาด้วยต้นไม้และดอกไม้ให้ห้องนั่งเล่นเป็นทางเลือกที่ดี เพราะต้นไม้สีเขียว หรือดอกไม้สีสันสดใสต่างๆ จะช่วยเป็นจุดพักสายตา เพิ่มความสดชื่นให้กับเรายามนั่งพักผ่อน เราอาจจะเลือกต้นไม้ใบสวยๆ สักสองสามต้น ใส่กระถางต้นไม้ที่มีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เข้ากับสไตล์ และโทนของการตกแต่ง ทั้งนี้ควรเลือกต้นไม้ที่สามารถปลูกได้บ้านได้ เพราะเราต้องเลือกต้นไม้ที่ไม่ต้องการแสงแดดจัดมาก มีความทนทาน ดูแลได้ไม่ยาก เหมาะกับการปลูกในที่ร่ม หรือหากสไตล์ Home Cafe ของเรามีความเป็นวินเทจ ก็อาจเลือกใช้ดอกไม้ปลอม ดอกไม้แห้ง มาตกแต่งสร้างบรรยากาศได้
  • การออกแบบจัดสรรพื้นที่ ในการตกแต่งห้องรับแขกควรออกแบบให้เป็นห้องที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานจริงของสมาชิกในครอบครัว ถึงแม้ว่าเราจะออกแบบโดยใส่ความเป็น Home cafe ลงไป อย่างไรก็ตามมันก็ควรจะจัดสรรพื้นที่ให้ออกมาลงตัว การออกแบบจัดสรรพื้นที่นั้น นอกจากจะช่วยให้ห้องรับแขกของเราดูเป็นระเบียบ ทำความสะอาดง่ายแล้ว ก็จะทำให้ดูมีพื้นที่ชัดเจน เป็นการช่วยเสริมสร้างบรรยากาศ Home cafe ได้มากยิ่งขึ้น เคล็ดลับคือการกำหนดเขตด้วยการวางเลย์เอาท์ที่เป็นระเบียบ และจัดวางเฟอร์นิเจอร์ เช่น การใช้พรมกำหนดพื้นที่ การใช้ฉาก หรือการหันโซฟาเซ็ทเข้าหากัน การกั้นให้ดูมีอาณาเขตสำหรับพักผ่อนชัดเจน ซึ่งการจัดแบบนี้จะทำให้ห้องรับแขกสไตล์คาเฟ่ของเราจะดูโปร่ง และมีมิติที่น่าสนใจได้

.

How to 3. เฟอร์นิเจอร์ที่สามารถใช้ในการตกแต่งห้องรับแขกให้ออกมาเป็น Home Cafe

เฟอร์นิเจอร์ที่มีสไตล์โดดเด่นจะเป็นตัวชูโรงให้กับห้องรับแขก ในการเลือกควรเน้นที่เข้ากับดีไซน์ที่ออกแบบไว้ หากเราเลือกสไตล์การแต่งโฮมคาเฟ่แบบโมเดิร์นลอฟท์ การเลือกชุดโซฟาที่เป็นสไตล์น่ารักอาจไม่เหมาะ ทำให้ไม่เข้ากัน ดูขัดตา ยิ่งเฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดใหญ่ก็จะยิ่งมีส่วนสำคัญในการกำหนดโทน และบรรยากาศ (Mood and Tone) ของห้องรับแขกมากเท่านั้น ดังนั้นเราจึงจะต้องเลือกใช้ให้ดีโดยที่คำนึงถึงเรื่องของฟังก์ชันการใช้งานที่จะตอบโจทย์เรื่องของการจัดเก็บสิ่งของไปด้วยทีเดียว เรามาดูไอเดียเฟอร์นิเจอร์หลักๆ ที่จะสามารถใช้เป็นตัวช่วยในการสร้างบรรยากาศของความเป็นคาเฟ่ในหลากหลายสไตล์กันดูค่ะ

  • ชั้นวางของทั้งแนวตั้ง และแนวนอน

เราอาจเลือกใช้ชั้นวางของที่มีดีไซน์โปร่งมาทำเป็น พาทิชั่น (Partition) กั้นโซนเก๋ๆ ภายในห้องรับแขก เป็นการสร้างพื้นที่เฉพาะใน แต่ละมุม เพื่อตอบโจทย์ความเป็นโซนคาเฟ่ส่วนตัวแต่ยังสามารถแชร์บรรยากาศของการใช้ชีวิตร่วมกันของสมาชิกในครอบครัวภายในห้องรับแขกห้องเดียวกันได้ ข้อดีของการใช้เฟอร์นิเจอร์ประเภทชั้นวางของคือจะทำให้เรามีพื้นที่ในการจัดเก็บของมากขึ้น ถือเป็นไอเดียที่มีประโยชน์หลายทาง

  • โต๊ะกลาง

การเลือกใช้โต๊ะกลางที่มีขาโต๊ะเป็นลักษณะ ขาโต๊ะคาเฟ่ หรือขาโต๊ะบาร์ จะทำให้กลิ่นอายของความเป็นคาเฟ่ที่สมบูรณ์แบบเกิดขึ้น ขาโต๊ะคาเฟ่มีหลายสีสันหลายขนาดหลายรูปทรง ซึ่งเราสามารถเลือกใช้หน้าท๊อปโต๊ะให้สอดคล้องกับ Mood and Tone ของสไตล์ที่เลือกตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นหน้าท็อปของโต๊ะที่เป็นไม้ที่อาจมีพื้นผิว มีสีสันต่างๆ หรือใช้หน้าท๊อปโต๊ะเป็นหินอ่อน หรือเหล็ก วัสดุต่างๆเหล่านี้สามารถเข้ากันได้ดีกับขาโต๊ะคาเฟ่ เพียงแต่คุณเลือกจับคู่สีให้ดี เฟอร์นิเจอร์ชิ้นนี้จะกลายเป็นตัวสร้างบรรยากาศของความเป็น Home cafe ให้กับห้องรับแขกของคุณได้มากทีเดียว

  • โคมไฟสวยๆ สักชิ้น

แสงไฟ เป็นมากกว่าแค่แสงที่ให้ความสว่างภายในห้อง เพราะการจัดแสงเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะช่วยสร้างบรรยากาศของห้องรับแขกให้ดูดียิ่งขึ้น คาเฟ่ส่วนใหญ่มักนิยมตกแต่งด้วยโคมไฟดีไซน์เก๋ ดังนั้นการเลือกใช้โคมไฟรูปทรงเหมือนดั่งคาเฟ่นั้น มักจะแตกต่าง จากรูปแบบทั่วๆ ไป ซึ่งข้อดีของโคมไฟชนิดนี้คือช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้แก่ห้องนั่งเล่นได้เป็นอย่างดี ส่วนข้อเสียนั้นคือไม่ค่อยเน้นการส่องแสงสว่างเท่าไหร่นัก ดังนั้นในแง่ของการตกแต่ง หากห้องรับแขกของเรามีการตกแต่งด้วยกระจกซึ่งช่วยให้แสงธรรมชาติเข้ามามากกว่าผนังทึบซึ่งทำให้รู้สึกโปร่งสบายอยู่แล้ว การที่เราใช้โคมไฟที่มีแสงนีออนสีสว่างก็จะทำให้ห้องรับแขกสไตล์คาเฟ่นั้นดูมีความโมเดิร์น ทันสมัยขึ้น หรือถ้าใช้โคมไฟที่มีแสงสีออกเหลืองส้ม จะทำให้ห้องรับแขกดูอบอุ่น ผ่อนคลาย นอกจากการจัดแสงที่จะเหมาะสมกับกิจกรรมภายในห้องรับแขก สไตล์คาเฟ่แล้ว การเลือกดีไซน์โคมไฟที่จะเป็นของตกแต่งภายในห้องรับแขกก็เป็นหนึ่งสิ่งที่ห้ามพลาด ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟตั้งโต๊ะ โคมไฟตั้งพื้น หรือโคมไฟติดเพดาน ก็เป็นส่วนช่วยเสริมความดูดีให้กับห้องรับแขกเราได้เพียงแค่หาโคมไฟที่ตอบโจทย์กับสไตล์คาเฟ่ที่เราออกแบบไว้ เพราะว่าห้องรับแขกเป็นจุดศูนย์กลางหนึ่งของบ้าน ซึ่งมีวัตถุประสงค์รองรับการใช้งานของคนหลายคน รวมทั้งตัวเราเองที่ต้องการการพักผ่อน ดังนั้นแล้วการจะตกแต่งห้องรับแขกให้เป็นสไตล์ home cafe นั้น นอกจากความชอบเรื่องของสไตล์ส่วนตัวแล้ว เราอาจจะต้องดีไซน์เรื่องของฟังก์ชันการใช้งานที่เหมาะสม ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ให้ดี เพื่อที่เราจะสามารถใช้พักผ่อนทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างคุ้มค่าด้วยนะคะ