เทรนด์แต่งบ้าน Sustainable Design

เทรนด์การแต่งบ้านของคนยุคใหม่นั้นมีให้เลือกหลากหลายแบบ แต่กระแสหนึ่งที่ผู้คนเริ่มให้ความสนใจกันมากคือ เรื่องของสิ่งแวดล้อมที่ได้เข้ามาแทรกซึมในแวดวงของการออกแบบตกแต่งบ้าน Sustainable Design คือการออกแบบที่สอดคล้องกับบริบทโดยรอบ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กระแสความนิยมนี้ได้เข้ามาเป็นคลื่นลูกใหญ่ที่ทำให้มีการปรับตัวของสถาปัตยกรรม โดยคอนเซ็ปภาพรวมของมันมุ่งเน้นไปที่การออกแบบที่อยู่อาศัยให้อยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน

.

การแต่งบ้านแบบ Sustainable Design คืออะไร ?

Sustainable Design คือ การออกแบบและตกแต่งบ้านให้เข้ากับพื้นที่โดยรอบ โดยเลือกใช้วัสดุก่อสร้าง หรือเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด และเบียดเบียนธรรมชาติให้น้อยที่สุด หรือเรียกอีกชื่อว่า Eco Design ก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้การตกแต่งประเภทนี้ยังเลือกใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่ช่วยลดการใช้พลังงานภายในบ้าน เข้ามาปรับใช้ เพื่อช่วยรักษาธรรมชาติให้ได้มากที่สุด

.

องค์ประกอบหลักๆ ของการแต่งบ้านแบบ Sustainable Design มีอะไรบ้าง ?

  • ต้องทำแต่ละพื้นที่ให้เชื่อมต่อกัน

เริ่มต้นด้วยการออกแบบแผนผังห้องตามแบบ Sustainable Design ด้วยการเชื่อมต่อพื้นที่ต่างๆ ให้เชื่อมถึงกันได้โดยไม่ต้องมีกำแพงกั้นการออกแบบที่พบเห็นได้บ่อยมักเป็นการเชื่อมต่อห้องนั่งเล่น และห้องครัว เนื่องจากเป็นพื้นที่นี่เป็นพื้นที่ส่วนกลางของครอบครัวที่มักจะใช้งานร่วมกัน การออกแบบผังห้องสไตล์นี้นอกจากจะช่วยให้บรรยากาศโล่ง โปร่ง สบายตาแล้ว ยังช่วยลดการใช้วัสดุก่อสร้างลงไปมาก ซึ่งทำให้บ้านของเราเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น อีกพื้นที่ที่นิยมจัดวางให้เชื่อมต่อกันคือ พื้นที่พักผ่อน เชื่อมกับบริเวณครัวไอเดียตกแต่งพื้นที่พักผ่อนไว้ใกล้กับครัวเป็นการจัดการพื้นที่ที่น่าสนใจ อาจทำได้โดยเลือกใช้โซฟาที่นอนแบบไม่มีพนักพิง เพื่อให้สามารถใช้เป็นมุมจิบชาชิวๆ สบายๆ เหมาะแก่การพักผ่อนได้อย่างลงตัว

.

  • ทำหน้าต่างใหญ่รับแสงธรรมชาติ

เพื่อเชื่อมโยงคนในบ้าน และธรรมชาติภายในให้ได้อยู่ใกล้ชิดกันมากขึ้น คนที่สนใจการตกแต่งบ้านแบบ Sustainable Design จึงนิยมใช้หน้าต่างบานใหญ่ หรือติดตั้งหน้าต่างไว้ตามจุดต่างๆ ของบ้านเพื่อให้คนในบ้านได้ผ่อนคลายไปกับบรรยากาศภายนอก ช่วยให้แสงสว่างเข้าสู่ตัวบ้านได้มากยิ่งขึ้น และยังช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าในช่วงกลางวันได้อีกด้วย หน้าต่างบานใหญ่ทำให้สามารถรับแสงจากภายนอกเข้ามาในบ้าน และการเลือกติดหน้าต่างหลายๆฝั่ง ก็เพื่อให้ความสว่างเข้าสู่ห้องได้เต็มที่ ทั้งยังเป็นการช่วยให้ภาพรวมในห้องกว้างขึ้น และยังเสริมความโดดเด่นให้กับเฟอร์นิเจอร์ในห้องได้อีกด้วยเราสามารถประยุกต์ไอเดียหน้าต่าง

โดยการแต่งบ้านให้มีช่องรับแสงทั้งจากด้านบน และด้านข้าง โดยอาจเลือกออกแบบบ้านให้มีช่องตรงกลางเพื่อรับแสงจากด้านบน และด้านข้างในเวลาเดียวกัน โดยพื้นที่วางสามารถปลูกต้นไม้ใหญ่เพื่อความสดชื่นได้ แต่อย่างไรก็ตามเพื่อให้บรรยากาศในยามค่ำคืนดูไม่น่าเบื่อเกินไป แนะนำให้เลือกติดตั้งโคมไฟเพิ่มโดยอาจใช้ดีไซน์โมเดิร์น ที่ดูเรียบหรู มาช่วยให้แสงสว่าง และสร้างสถานที่ให้เหมาะกับการพักผ่อน หรือสังสรรค์ยามค่ำคืนได้

.

  • เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ให้บรรยากาศเป็นธรรมชาติ

เพื่อให้ได้บรรยากาศแบบ Sustainable Design เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ที่ใช้ในการตกแต่งบ้านสไตล์นี้ จึงเน้นแบบที่ให้บรรยากาศเป็นธรรมชาติ เช่น เฟอร์นิเจอร์ลายไม้ หวาย ไม้สังเคราะห์ ไปจนถึงวัสดุรีไซเคิล หรือเลือกใช้วัสดุที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ เพื่อให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่สุด ตัวอย่างเช่น เก้าอี้จากวัสดุธรรมชาติเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งที่ช่วยเสริมความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติได้ในหลายมิติทั้งจากสายตาที่มองเห็น และความรู้สึกสัมผัสจากการใช้งาน ยิ่งถ้าเก้าอี้ที่เลือกใช้มีส่วนประกอบของวัสดุจากธรรมชาติอย่างเช่นไม้ ผสมผสานกับผ้าประเภทต่างๆ เช่น ผ้าลินิน จะเป็นการช่วยสร้างความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติได้มากๆ ที่สำคัญมันยังมีความแข็งแรงทนทาน ใช้งานได้อย่างยาวนานลดการสร้างขยะให้กับโลกตอบโจทย์ความยั่งยืนได้สุดๆ ทั้งนี้เราอาจเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นองค์ประกอบหลักในการตกแต่งห้องในพื้นที่อื่นๆ ได้อีกไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ ตู้ ชั้นวางของ ฯลฯ สำคัญคือควรเลือกดีไซน์ที่นำมาประกอบแล้วเข้ากันได้อย่างลงตัว และยิ่งเมื่อนำมาวางในห้องที่ปูพื้นลายไม้ ก็จะยิ่งช่วยให้บรรยากาศโดยรวมสบายตายิ่งขึ้นแบบสุดๆ

.

  • เลือกใช้โทนสีเย็น

แม้จะขึ้นชื่อว่า Sustainable Design ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ไม่จำเป็นต้องตกแต่งห้องด้วยสีเขียวเสมอไป แนวทางการใช้สีจึงสื่อว่า ควรเลือกคุมโทนแต่งห้องด้วยสีโทนเย็น เช่น สีฟ้าอ่อน สีเขียวอ่อน สีเทา หรือสีเทาอ่อน การใช้สีเทาจะช่วยทำให้เกิดบรรยากาศเย็นสบายตา เราสามารถเลือกใช้สีเทาซึ่งเป็นสีโทนเย็นช่วยลดความร้อนภายในบ้าน ลดการใช้เครื่องปรับอากาศ ช่วยประหยัดค่าไฟได้อีกทางหนึ่ง โดยอาจเลือกของแต่งห้องเป็นสีเทาเข้ากับผนังสีเทา เมื่อนำมาประกอบกับเฟอร์นิเจอร์ไม้อย่างเก้าอี้ดีไซน์สวยๆ โต๊ะไม้ โซฟาไม้ และโคมไฟดีไซน์เก๋ไก๋ ก็จะทำให้ภาพรวมดูเข้ากันได้ดีอย่างลงตัว หรือจะเลือกใช้โซฟาสีเบจซึ่งเป็นสีที่ตัดกับผนังห้องสีเทาได้เป็นอย่างดี ทั้งยังสร้างบรรยากาศให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ และเข้ากัยได้กับพื้นลายไม้ หรือเฟอร์นิเจอร์ไม้ได้อีกด้วย

.

  • คุมโทนเรียบๆ ด้วยสีเบจ และเฟอร์นิเจอร์ลายไม้

สีเบจเป็นอีกหนึ่งสีที่นิยมใช้ในการแต่งห้องแบบ Sustainable Design ไม่เว้นแม้แต่ในห้องครัว ก็สามารถเลือกใช้เคาน์เตอร์ครัวลายไม้ โดยจะเลือกเป็นแบบหน้าท็อปเคาน์เตอร์สีขาว หรือท็อปกระจกที่ช่วยให้ทำการทำความสะอาดเป็นเรื่องง่ายก็ได้ อีกทั้งมันยังช่วยคุมโทนให้เข้ากับผนังสีเบจได้ดี ทั้งนี้การคุมโทนด้วยสีนี้จะต้องไม่ลืมเพิ่มความสดชื่นด้วยต้นไม้เล็กๆ น้อยๆ ตามจุดต่างๆ ไว้ เพื่อไม่ให้บรรยากาศน่าเบื่อจนเกินไป แต่หากใครไม่ชื่นชอบห้องคุมโทน และอยากใช้ห้องโทนสีเข้ม ก็สามารถทำได้โดยแนะนำให้ใช้ของแต่งห้องสีเขียว ที่ตัดกับห้องโทนสีเข้มมาตกแต่งเพิ่มสีสันเพื่อให้ได้บรรยากาศแบบ Sustainable Design ได้เช่นกัน

.

  • ต้นไม้เพิ่มความสดชื่น

สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับคอนเซปต์ Sustainable Design คือการเพิ่มความสดชื่นภายในห้องด้วยต้นไม้แต่งห้องหลากหลายชนิด อาจเลือกได้ทั้งไม้ใบและไม้ดอก ทั้งนี้แนะนำให้ใช้ต้นไม้จริงที่นอกจากจะเพิ่มพื้นที่สีเขียวซึ่งทำให้ผู้อยู่อาศัยสบายตามากยิ่งขึ้นแล้ว ต้นไม้บางชนิดก็ช่วยฟอกอากาศ เพิ่มอากาศดีๆ ภายในบ้านได้เช่นกัน และอย่าลืมเลือกใช้กระถางต้นไม้เก๋ๆ เพื่อเพิ่มบรรยากาศในการแต่งห้องให้ไม่เหมือนใคร

.

ท้ายที่สุดดูเหมือนเราจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่า การตกแต่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจะกลายเป็นเทรนด์ที่ผู้คนจะหันมาให้ความสนใจมากขึ้นจากนี้ และต่อๆ ไป กระแสผู้บริโภค และนักออกแบบต่างก็จะหันมาผลิต และใช้สินค้ารีไซเคิล รวมถึงสร้างสรรค์ผลงานผ่านงานฝีมือกัน เราจะได้เห็นเฟอร์นิเจอร์ที่ถูกออกแบบให้มีความยั่งยืนด้วยการทำจากวัสดุทดแทนธรรมชาติที่ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ด้านความสวยงามเท่านั้น แต่ยังมีการออกแบบตามแนวทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจน และกระแสความนิยมของเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถมีรูปแบบการใช้งานได้หลากหลายคือมีคุณสมบัติแบบ Multifunction ก็จะเป็นองค์ประกอบที่มาควบคู่กันอย่าง ในส่วนของคนที่ยังไม่ได้มีแพลนแต่งบ้านใหม่ ก็สามารถเริ่มปรับตัวเข้ากับ Sustainable Design ได้ง่ายๆ ด้วยการใช้สิ่งของที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

โดยเราสามารถเลือกอุปกรณ์ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์มาปรับเปลี่ยนซ่อมแซมเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเก่า หรืออาจดีไซน์ให้เปลี่ยนแนวเปลี่ยนสไตล์ใหม่เพื่อที่เราจะสามารถใช้งานมันได้ต่อไปอีกยาวนาน นั่นก็เป็นวิธีการที่จะช่วยทำให้เราประหยัดค่าใช้จ่าย และช่วยลดการใช้ทรัพยากรได้มาก เรียกว่าตอบโจทย์วิถีของคนยุคใหม่ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการใส่ใจในสิ่งแวดล้อมค่ะ