การเลือกแก้วไวน์ และที่แขวนแก้วไวน์ (Wine rack)

จิบไวน์เล็กๆ กลั้วให้ทั่วปาก อมดูดซับรสไว้ชั่วขณะ… หลังจากนั้นค่อยกลืน ว่ากันว่าการดื่มไวน์เป็นมากกว่าการบริโภคเครื่องดื่ม แต่มันคือประสบการณ์ทั้งหมด

ไวน์ เป็นเครื่องดื่มประจำโอกาสพิเศษ และการเฉลิมฉลอง ด้วยรสชาติฝาดแต่ละมุนลิ้นของมันช่วยให้มื้ออาหารพิเศษขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ หลายคนสงสัยว่าทำไมผู้คนจึงนิยมดื่มไวน์ ในแง่ของความชอบส่วนตัวคงจะมีเหตุผลเป็นร้อยพัน บางคนดื่มไวน์เพื่อสังสรรค์ บางคนดื่มไวน์เพื่อสุขภาพ บางคนดื่มไวน์เพราะเป็นไลฟ์สไตล์ ฯลฯ แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด เครื่องดื่มประเภทนี้ก็ได้ครองใจใครหลายๆ คนจนถึงขนาดต้องมีไว้ติดบ้านกันเลยทีเดียว

.

หลายคนนั้นชื่นชอบไวน์มากถึงกับมีการสะสมไวน์ไว้ในตู้แช่ไวน์  เพื่อไว้เป็นคอลเลกชั่น สำหรับใช้ดื่ม และหมักไวน์ แน่นอนค่ะว่าไวน์ยิ่งผ่านการหมักที่นานเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีราคาสูง และมีรสชาติที่ดีมาก ไวน์บางยี่ห้อสามารถดื่มได้ทุกวันเพราะมีแอลกอฮอล์ที่น้อยมากแต่ยังคงรสชาติที่เป็นธรรมชาติไว้ อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมมากเพราะผ่านการหมักจากผลไม้หลากหลายชนิดอีกด้วย และเมื่อมีไวน์ชั้นเลิศแล้ว อุปกรณ์สำหรับการดื่มไวน์ก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะเราไม่สามารถดื่มไวน์จากแก้วน้ำพลาสติกได้ เนื่องจากมันไม่ได้ให้สัมผัสที่เหมาะสมและแก้วไวน์ก็มีผลต่อรสชาติของไวน์

อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น ไวน์เป็นเครื่องดื่มพิเศษ และเพื่อจะคงรสชาติ และกลิ่นเอาไว้ให้สมบูรณ์ที่สุด การเลือกใช้ แก้วไวน์ จึงกลาย เป็นหนึ่งอุปกรณ์ปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกับรสสัมผัส รสชาติ และกลิ่นของไวน์ และนั่นคือเหตุผลที่มีการออกแบบแก้วไวน์ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การดื่มไวน์แต่ละประเภทโดยเฉพาะ

เป็นที่รู้กันว่าแก้วไวน์แบ่งตามประเภทของชนิดของไวน์ เช่น

  • ไวน์แดง (Red Wine) จะใช้แก้วที่มีตัวแก้วอ้วน และกลม ปากแก้วกว้าง
  • ไวน์ขาว (White Wine) จะใช้แก้วที่มีลักษณะตัวแก้วเป็นรูปตัวยู สูงเพรียว และปากแก้วแคบกว่าแก้วไวน์แดง
  • ไวน์โรเซ่ (Rose Wine) เป็นไวน์ที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ และรสชาตินุ่มละมุนเป็นเอกลักษณ์ แก้วไวน์สำหรับไวน์โรเซ่ จะมีตัวแก้วสูงเพรียว ไม่เป็นกระเปาะกลม ปากแก้วแคบ
  • สปาร์คกลิ้งไวน์ (Sparkling Wine) หรือแชมเปญ แก้วไวน์ประเภทนี้จะมีตัวแก้วทรงยาว เพรียว และสูง ปากแก้วแคบจะเห็นได้ว่า นอกจากแก้วไวน์มีหลายลักษณะหลายรูปแบบ มันยังมีหลายเกรดหลายราคาให้เลือกซื้อเลือกหามาเป็นอุปกรณ์ ในการดื่ม ดังนั้นเราไปดูปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกแก้วไวน์กันค่ะ

.

ปัจจัยที่ควรพิจารณาเพื่อเลือกแก้วไวน์ให้เหมาะสม และดีที่สุด

ประเภท และคุณภาพของแก้ว

แก้วไวน์ที่สมบูรณ์แบบควรมีความใส ไม่มีการตกแต่งใดๆ เพราะเราต้องแน่ใจว่าจะสามารถเห็นสีของไวน์อย่างชัดเจนที่สุด ไม่เพียงเท่านั้น เราจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าแก้วไวน์ปราศจากข้อบกพร่องใด ๆ เช่น สมดุลความโค้งมน ไม่มีฟองอากาศ หรือรอยแตกใดๆ ส่วนวัสดุ ของแก้วไวน์หากคุณมีไลฟ์สไตล์ใช้งานแก้วไวน์เป็นประจำ ให้เลือกแก้วซิลิกาเพราะมันจะทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ในทางกลับกัน ถ้าคุณจะใช้แก้วไวน์ไม่บ่อย และใช้มันเป็นหนึ่งในอุปกรณ์สำหรับการตกแต่งบ้าน คุณควรเลือกแก้วแบบคริสตัล เมื่อแขวนไว้กับที่แขวนแก้วไวน์ (Wire rack / Wire glass holder) พร้อมกับติดตั้งไฟส่องลงมา เมื่อแก้วที่แขวนอยู่กระทบกับไฟ มันจะส่องประกายแวววาว สวยงาม สร้างบรรยากาศหรูหรามีระดับเป็นความรู้สึกพิเศษให้กับที่อยู่อาศัยได้มากๆ เลยนะคะ

.

รูปร่าง และขนาดของแก้วไวน์

ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์เชื่อว่ารูปร่าง และขนาดของแก้วไวน์เป็น 2 ลักษณะที่สำคัญที่สุดของแก้วไวน์ เนื่องจากมันมีผลโดยตรงต่อกลิ่นของไวน์ คนทั่วไปมีแนวโน้มที่จะลงทุนในแก้วที่มีปากกว้างเพื่อจะได้ไวน์ในปริมาณที่พอเหมาะ อย่างไรก็ตามต้องแน่ใจว่าแก้วไวน์ไม่ใหญ่ หรือลึกเกินไป ไม่เช่นนั้นกลิ่นหอม และเสน่ห์ของไวน์อาจจะหายไปได้ คำแนะนำสำหรับมือใหม่หากเลือกไม่ถูกแนะนำให้เลือกแก้วไวน์ขนาดมาตรฐานที่มีคุณภาพสูง เพราะถือเป็นหนึ่งในการลงทุนที่ดีที่จะไม่เสี่ยงในการเลือกผิด

.

ความบางของแก้ว และก้านของแก้ว

เนื้อแก้วมีบทบาทสำคัญที่สุดในเรื่องของความสวยงาม เนื้อแก้วแบบบางๆ มักจะดีกว่าเนื้อแก้วหนา เราจะรู้สึกถึงความต่างได้เด่นชัดที่สุดเมื่อแก้วไวน์กดทับไปริมฝีปาก ในทางตรงกันข้ามแก้วหนามักจะให้ความรู้สึกที่ไม่ค่อยดี เพราะจะมีความไม่สมูธในการดื่มไวน์ แต่ทั้งนี้ เรื่องความหนาของแก้วก็เป็นเรื่องของความชอบส่วนบุคคล อย่างไรก็ตามโดยมากแก้วไวน์ที่มีคุณภาพดีกว่ามักจะมีลักษณะบางเพื่อเพิ่มการรับรู้รสของไวน์ และในส่วนก้านของแก้วไวน์ บางยี่ห้อมีความบอบบางมากจนเกินไป ซึ่งทำให้แตกหักได้ง่ายมาก ดังนั้นเราอาจต้องพิจารณาทั้ง 2 ส่วนในของแก้วในการเลือกซื้อ หากไม่ชัวร์หรือเป็นมือใหม่หัดดื่มก็อาจเลือกแบบหนาหน่อย หรืออาจจะเลือกแบบที่ผ่านการหล่อหลอมแบบละเอียดเพื่อให้มันใช้งานได้นานและจับได้อย่างมั่นคง

.

ความยาวของก้าน

ความยาวของก้านมีบทบาทสำคัญเมื่อพูดถึงความสมดุลของแก้ว แก้วไวน์ที่ดีที่สุดไม่ควรสั้น และยาวจนเกินไป เพราะมันจะขาดความสง่างาม และไม่น่าดึงดูด ในทางกลับกันก้านไวน์ที่มีความคลาสสิค และสวยงาม มักจะมีก้านของแก้วที่ยาวพอที่จะถือแก้วได้อย่างสบายโดย  ไม่ต้องสัมผัสกับฐานแก้ว ซึ่งโดยมากมาตรฐานแก้วไวน์ควรมีความสูงอยู่ระหว่าง 8-9 นิ้ว และมีความยาวในส่วนของก้านไม่น้อยกว่า 4 นิ้ว

.

ฐาน และความสมดุลของแก้ว

แก้วไวน์บางแบบมีน้ำหนักซึ่งอาจจะไม่สะดวกในการถือตลอดเวลา และหากเราจะทำการวางแก้วไว้บนโต๊ะ ฐานของแก้วย่อมเป็นตัวช่วยสำคัญในเรื่องของความมั่นคงปลอดภัย แก้วไวน์ที่มีฐานเส้นรอบวงขนาดเล็กนั้นง่ายต่อการโดนกระแทกล้มเนื่องจากขาดความสมดุลในการวาง ทั้งนี้การเลือกแก้วที่มีฐานกว้างเกินไป อาจจะมีข้อดีคือความแข็งแรง แต่ก็อาจจะไม่เหมาะสำหรับการดื่มไวน์ในมื้อที่โต๊ะมีคนหนาแน่น ดังนั้นตามหลักมาตรฐานแล้ว เราควรเลือกแก้วที่มีฐานของเส้นรอบวงเท่ากันกับส่วนที่กว้างที่สุดของแก้ว เพราะเป็นระยะที่มักจะให้ความสมดุลกับแก้วได้เหมาะสมที่สุด

.

เมื่อมีแก้วไวน์ที่ถูกใจแล้ว ต่อไปก็เป็นขั้นตอนของการล้างทำความสะอาด เพื่อที่จะเก็บรักษา รวมถึงแขวนโชว์ไว้ได้อย่างสวยงาม และเรามีคำแนะนำการล้าง การเช็ดแก้วไวน์ที่ถูกต้องมาฝากกันค่ะ

วิธีการล้าง เช็ดแก้วไวน์ที่ถูกต้อง

ล้างด้วยน้ำเปล่า

กรณีถ้าแก้วไวน์นั้นไม่เลอะเกินไปให้ล้างด้วยน้ำเปล่า เพราะการล้างด้วยน้ำยาล้างจาน หรือสบู่ จะมีสารตกค้าง ที่อาจจะส่งกลิ่น รบกวนการรินดื่มไวน์ หรือทำปฏิกิริยากับไวน์ได้

.

ใช้น้ำเย็น หรือน้ำอุ่น

เป็นคำถามที่หลายคนมักสงสัย และคำตอบคือจะล้างน้ำเย็น หรือน้ำอุ่นก็ได้ หากในมื้ออาหารที่มีการดื่มไวน์นั้น มีอาหารที่มีความมันอยู่มาก เพื่อความชัวร์การล้างด้วยน้ำอุ่นก็จะช่วยขจัดคราบมันที่อาจติดอยู่ออกไปได้ส่วนนึง แต่ทั้งนี้ห้ามล้าง หรือราดด้วยน้ำร้อนจัดเพราะแก้วไวน์ที่เย็นพอโดนความร้อนจะเกิดการขยายตัวมาก อาจทำให้แก้วแตกได้

.

อย่าสะบัดแก้วไวน์เด็ดขาด

บางคนสะบัดแก้วไวน์เพื่อให้สะเด็ดน้ำและด้วยวิธีการนั้นอาจทำให้ก้านแก้วหักได้

.

ใช้ผ้าสะอาดเช็ด

Cr. lucariscrystal.com

ปัจจุบันมีผ้าที่ออกแบบสำหรับเช็ดเครื่องแก้วจำหน่าย มันมีข้อดีคือจะมั่นใจได้ว่าไม่มีฝุ่น หรือขนผ้าติดค้างในแก้ว แต่ไม่ว่าจะใช้ผ้าอะไรเราต้องแน่ใจว่าผ้านั้นสะอาดปราศจากกลิ่นเพื่อเช็ดแก้ว และให้ทำการเช็ดเบาๆ ให้แห้ง

.

ที่แขวนแก้วไวน์ ตัวช่วยคนที่ไม่อยากเสียเวลาเช็ดแก้ว

ถ้าไม่อยากเสียเวลาเช็ดแก้วไวน์ ก็มีวิธีง่ายๆคือ หาที่แขวนแก้วไวน์ มาใช้แขวน ที่แขวนแก้วไวน์ถูกออกแบบมาให้แขวนแก้วโดย คว่ำลงทำให้น้ำไหลออกจนแห้ง วิธีนี้แก้วอาจจะมีรอยคราบน้ำเล็กน้อย แต่ข้อดีคือ มันไม่เสี่ยงต่อการแตกในขณะที่เช็ด ซึ่งถือเป็นทางออกที่ดีที่แนะนำสำหรับคนที่อยากจะประหยัดเวลา และกลัวว่าจะผิดพลาดในการเช็ดแก้วได้ดีมากๆ ค่ะ

.

        แนะนำอุปกรณ์ ที่แขวนแก้วไวน์ ที่แขวนแก้วไวน์สีทอง Wine rack / Wine glass holder

  •  ชุดราวแขวนแก้วไวน์ รหัสสินค้า 530.001.290 ขนาด 260 X 290 X 65cm. วัสดุ : สแตนเลส, เหล็กชุบโครเมี่ยม

.

  • ชุดราวแขวนแก้วไวน์ ตัวยู รหัสสินค้า 531.001.345 ขนาด 330 X 345 X 53mm. วัสดุ : สแตนเลส, เหล็กชุบโครเมี่ยม

.

  • ชุดราวแขวนแก้วไวน์ ราว 3, 5, 7 ช่อง รหัสสินค้า 535.016
    ขนาด : 400 X 260 X 60mm. : 600 X 260 X 60mm. : 800 X 260 X 60mm. วัสดุ : สแตนเลส

.

  • ชุดราวแขวนแก้วไวน์ ราวคู่ รหัสสินค้า 534.016.900 ขนาด 90cm. วัสดุ : สแตนเลส

.

  • ชุดราวแขวนแก้วไวน์ ราวเดี่ยว รหัสสินค้า 533.016.900 ขนาด 90cm. วัสดุ : สแตนเลส
  • ที่แขวนแก้วไวน์ สีทองแดง รุ่น 599.003  รหัสสินค้า   599.003.340  ขนาด 340X129X62 CM.

.

  • ที่แขวนแก้วไวน์ สีมอคค่า รุ่น 599.001.573  รหัสสินค้า 599.001.573 ขนาด 73.7 X 335 X 57.5cm.
  •  ที่แขวนแก้วไวน์ สีมอคค่า รุ่น 599.004 รหัสสินค้า 599.004.560 ขนาด 560 X 250 X 52cm.