การออกแบบตกแต่งภายในด้วยเฟอร์นิเจอร์ Fit-in

หัวใจของ Fit-in (ฟิต-อิน) คือ ศาสตร์แห่งการแปลงโฉมที่พักอาศัยให้ลงตัว และพอดีซึ่งหัวใจหลักอยู่ที่ความพอดี (Fit) และสมดุล (Balance) โดยแต่ละห้องของที่อยู่อาศัยจะต้องถูกตกแต่งอย่างพอดี เพื่อให้ชีวิตของผู้พักอาศัยเกิดความสมดุล หลายคนคงอาจจะคุ้นกับรูปแบบการตกแต่งภายในที่เรียกว่า Built-in Furniture กันมาเยอะแล้ว แต่วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับ Fit-in Furniture ซึ่งเป็นรูปแบบการออกแบบตกแต่งโดยการใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีลักษณะอยู่กึ่งกลางระหว่างรูปแบบของ Built-in Furniture และการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว ซึ่งในปัจจุบันการตกแต่งนี้แนวนี้เป็นที่นิยมมากสำหรับห้องที่มีขนาดพื้นที่จำกัดไม่ว่าจะเป็น คอนโดมิเนียม, ไมโครคอนโด, ทาวน์โฮม, บ้านแฝด หรือหอพัก ฯลฯ

.

ทำความรู้จักกับ Fit-in Furniture

Fit-in Furniture คือ รูปแบบการตกแต่งภายในประเภทหนึ่ง ที่มีลักษณะคล้ายกับการ Built-in Furniture ที่เราคุ้นตา แต่จะแตกต่างตรงที่การตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ประเภทนี้ จะเหมาะสำหรับที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่จำกัดอย่าง คอนโด ห้องขนาดเล็ก หอพัก รวมถึงบ้านพักอาศัยขนาดเล็กๆ จุดเด่น และเอกลักษณ์ของ Fit-in Furniture ที่แตกต่างจาก Built-in Furniture คือเรื่องของการผลิต และการติดตั้ง เพราะเฟอร์นิเจอร์บางชิ้นสามารถสั่งผลิตจากโรงงานได้ และนำมาติดตั้งหน้างานได้ทันที ทำให้สะดวก ประหยัดเวลาในการจบงานได้เร็ว นอกจากนั้นแล้วยังสามารถแยกเซตโดยใช้เฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูปเพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าได้ด้วย เช่น ชุดวางทีวี, ผนังตกแต่งหัวเตียง, ชุดครัว เป็นต้นฯ

.

เฟอร์นิเจอร์ Fit-in กับ Built-in ความแตกต่างกันอย่างไร ?

  • ด้านรูปแบบดีไซน์  :

มีความใกล้เคียงกันมาก เพราะเฟอร์นิเจอร์ทั้ง 2 แบบนี้จะมีรูปแบบงานดีไซน์ให้เลือกหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นสไตล์ Modern  Minimal หรือ Luxury โดยงานเฟอร์นิเจอร์แบบ Fit-in จะมีรูปแบบสินค้าให้เราเลือกใช้งานได้หลากหลายตามงานดีไซน์ของบริษัทนั้นๆ แต่งานเฟอร์นิเจอร์แบบ Built-in เราสามารถเลือกดีไซน์สินค้า และสั่งทำได้ตามความชอบ และความต้องการใช้งาน

.

  • ด้านขนาด  :

มีข้อได้เปรียบแตกต่างกันแค่นิดเดียวก็คือ งานเฟอร์นิเจอร์แบบ Fit-in จะสามารถเลือกปรับขนาดของชุดเฟอร์นิเจอร์ไม่ว่าจะเป็นชั้นวางทีวี ชุดลิ้นชัก หรือตู้เสื้อผ้า ให้ใกล้เคียงกับพื้นที่ติดตั้งจริงได้อย่างยืดหยุ่น แต่งานเฟอร์นิเจอร์แบบ Built-in นั้น เราจะสั่งทำชุดเฟอร์นิเจอร์ให้มีขนาดพอดีกับพื้นที่ติดตั้งภายในบ้านของเราอย่างลงตัว เพราะเป็นชุดเฟอร์นิเจอร์ที่สั่งทำขึ้นมาเพื่อติดตั้งในบ้าน หรือห้องของเราโดยเฉพาะ และเมื่อติดตั้งไปแล้วจะไม่สามารถปรับเปลี่ยนโยกย้ายได้อิสระเท่าเฟอร์นิเจอร์แบบ ฟิต-อิน

.

  • ด้านความรวดเร็ว :

การติดตั้งต้องยกให้กับงานเฟอร์นิเจอร์แบบ Fit-in เลยค่ะ เพราะเฟอร์นิเจอร์ประเภทนี้ใช้เวลาติดตั้งน้อยมากๆ แค่ 2-3 ชั่วโมง คุณก็สามารถมีชุดเฟอร์นิเจอร์ ไม่ว่าจะเป็นชั้นวางทีวี ชุดลิ้นชักอเนกประสงค์ ชุดตู้เสื้อผ้า ฯลฯ ได้ตามแบบที่ต้องการ ส่วนงานเฟอร์นิเจอร์แบบ Built- in จะต้องใช้เวลาในการรอขึ้นแบบสินค้า และใช้เวลาในการติดตั้งค่อนข้างนาน เพราะค่อนข้างซับซ้อน

.

  • ด้านการเคลื่อนย้าย :

ข้อดีมากๆ ของงานเฟอร์นิเจอร์แบบ Fit-in ที่ค่อนข้างจะได้เปรียบเป็นพิเศษ เพราะงานเฟอร์นิเจอร์ประเภทนี้จะสามารถเคลื่อนย้าย หรือปรับรูปแบบการจัดวางของชุดเฟอร์นิเจอร์ได้ตลอดเวลาตามความต้องการใช้งานของเรา ส่วนงานเฟอร์นิเจอร์แบบ Built-in จะเป็นชุดเฟอร์นิเจอร์สั่งทำพิเศษแบบตายตัว ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนย้าย หรือปรับรูปแบบการติดตั้งเอาไปไว้ที่อื่นได้

.

  • ด้านความทนทาน แข็งแรง :

เฟอร์นิเจอร์ทั้ง 2 ประเภทนี้มีอายุการใช้งานค่อนข้างจะใกล้เคียงกันมากๆ อยู่ที่ประมาณ 20 ปี ทั้งงนี้ต้องเป็นกรณีที่โรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์นั้นๆ ใช้วัสดุที่ได้มาตรฐาน และผู้ใช้เองมีการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี เช่น ระวังไม่ให้ตู้ไม้อยู่ใกล้น้ำ หรือที่ๆ มีความชื้นสูง

  • ด้านราคา :

สำหรับคนที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในการตกแต่งบ้าน งานเฟอร์นิเจอร์แบบ Fit-in ถือว่าตอบโจทย์มากๆ เพราะมีราคาถูกกว่างานเฟอร์นิเจอร์แบบ Built-in ประมาณ 30%

.

สรุปจากความต่างระหว่าง Built-in และ Fit-in Furniture ที่เห็นได้ชัดคือ ในส่วนของ Built-in Furniture นั้น จะเน้นที่การตกแต่งเฟอร์นิเจอร์โดยทำโครงสร้างยึดติดกับผนังกำแพง และสร้างเป็นเฟอร์นิเจอร์ขึ้นมา ซึ่งจะเหมาะสำหรับพื้นที่ ที่มีขนาดกว้าง ที่สามารถมีกระบวนการผลิตที่นำมาทำหน้างานได้เท่านั้น และลักษณะเด่นของเฟอร์นิเจอร์ประเภท บิ้วอิน คือ สามารถออกแบบได้ตามความต้องการดั่งใจผู้ใช้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ในส่วนของ Fit-in Furniture นั้น จะเน้นที่เรื่องของความรวดเร็วในการติดตั้ง การปรับเปลี่ยนเคลื่อนย้ายได้อย่างเป็นอิสระ และมีราคาที่ถูกกว่า แต่ทั้งนี้เฟอร์นิเจอร์ทั้ง 2 แบบก็มีรูปแบบงานดีไซน์ให้เลือกหลากหลาย และมีความทนทานในการใช้งานใกล้เคียงกัน

.

จากเนื้อหาข้างต้นจะเห็นได้ว่าการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์สไตล์ ฟิต-อิน นั้น มีข้อดีที่ทำให้เราสามารถเตรียมการต่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ การออกแบบที่อยู่อาศัยที่เราสามารถปรับเปลี่ยนให้ตอบโจทย์กับวิถีชีวิต หรือไลฟ์สไตล์ที่ต่างออกไป เช่น เริ่มต้นจากตกแต่งที่อยู่อาศัยเป็นเรือนหอ ต่อมาเมื่อครอบครัวขยาย มีลูกเพิ่มขึ้นมาในบ้านก็สามารถปรับห้องทำงานเป็นห้องเด็กต้อนรับสมาชิกใหม่ของครอบครัว เวลานั้นการตกแต่งสไตล์ฟิต-อิน จะทำให้เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นสามารถขยับได้คล้ายกับจิ๊กซอว์ หรือหากอยากจะปรับเปลี่ยนตามรสนิยมที่เปลี่ยนไป หรือปรับเพื่อให้เหมาะกับเทรนด์ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงนั้นๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุน ก็สามารถปรับเปลี่ยน และแปลงโฉมได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องปวดหัวกับการทุบรื้อซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายตามมาโดยไม่จำเป็น ตัวอย่างเหล่านี้ สะท้อนว่า เฟอร์นิเจอร์ Fit-in ที่ออกแบบพิเศษนั้นมีข้อดีที่พร้อมจะปรับเปลี่ยน เคลื่อนย้าย ตามเงื่อนไขในแต่ละช่วงชีวิตของคนเราได้เสมอ

.

เชื่อว่าจากนี้ไปสู่อนาคตข้างหน้าผู้คนจะนิยมนำศาสตร์ Fit-in มาตกแต่งห้องพัก และบ้านกันมากขึ้น ด้วยเพราะส่วนหนึ่งเกิดจากความเข้าใจเงื่อนไขชีวิตขณะเดียวกันก็สะท้อนการเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น เพื่อจะสามารถยืดหยุ่นปรับตัวกับสิ่งต่างๆ รอบตัวให้ออกมาสมดุล และพอดีกับเงื่อนไขชีวิตในแต่ละช่วงของเราแต่ละคน ผ่านการออกแบบ และเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์กับที่อยู่อาศัย เพื่อจะได้ใช้ชีวิตอย่างสมดุล และมีความสุขที่สุดกันค่ะ