4 Idea เปลี่ยนห้องนั่งเล่นเป็นสไตล์ Nordic

“ความเรียบง่ายในการออกแบบ ความหรูหราในความรู้สึก และความสะดวกในการใช้งาน” ด้วยการผสมผสานอย่างลงตัวของ 3 คุณลักษณะหลักนี้ ทำให้สไตล์นอร์ดิก กลายเป็นสไตล์การแต่งบ้านที่ชอบของใครหลายๆคน และบทความนี้ จะชวนคุณผู้อ่านมารู้ไอเดียง่ายๆ ที่จะปรับเปลี่ยนห้องนั่งเล่นให้กลายเป็นสไตล์นอร์ดิกกันค่ะ

ภาพรวมของการแต่งบ้านสไตล์นอร์ดิก (Scandianvian) จะเป็นการแต่งบ้านให้ออกมาดูเรียบง่าย สบายๆ ไม่หรูหรา เน้นสีขาว และวัสดุจากธรรมชาติ เนื่องจากต้นแบบของสไตล์นอร์ดิกนั้น มีความใกล้เคียงกันมากกับสไตล์สแกนดิเนเวียน (สแกนดิเนเวียน เป็นสไตล์ที่ต้องการความสดชื่น ความเรียบง่าย และแสงสว่างที่เข้าถึงโดยมีเอกลักษณ์การใช้ผ้าม่านโปร่งสีขาว) เพราะจุดเริ่มต้นของสไตล์นี้มาจากการออกแบบ ที่อยู่อาศัยของผู้คนแถบยุโรปตอนเหนือ และทั้งคู่ก็แทบจะเป็นกลุ่มประเทศที่มีความแตกต่างเพียงนิดเดียว ด้วยความที่ Nordic เป็นกลุ่มประเทศที่ประกอบไปด้วย เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน ซึ่งเป็นประเทศที่ให้กำเนิดอิเกีย ซึ่งจุดกระแสเป็นตัวนำเทรนด์ (Trend Setter) ของสไตล์การแต่งบ้านที่มีอิทธิพลกับการแต่งบ้านมากในปัจจุบัน และเป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นที่ทำให้ “สไตล์สแกนดิเนเวียน และ นอร์ดิก” ได้กลายเป็นที่รู้จัก และชื่นชอบของผู้คนหลายประเทศ ที่สำคัญเทรนด์นี้ก็เป็นที่นิยมในวงการออกแบบตกแต่งภายใน (Interior Design) ของประเทศไทยด้วยเช่นกัน

.

ด้วยความที่ลักษณะสำคัญของสไตล์ Nordic นั้นค่อนข้างเน้นสีขาวเยอะเพราะมีแรงบันดาลใจในการสื่อถึงหิมะที่ให้ความรู้สึกเย็น
ดังนั้นวิธีการเปลี่ยนห้องนั่งเล่นให้เป็นสไตล์ Nordic จึงมีแนวทางใช้ส่วนผสมในการตกแต่งหลักๆ ดังนี้คือ

  • ใช้เฟอร์นิเจอร์ หรือพื้นที่ทำจากเนื้อไม้จริง

หลักของ Nordic Style คือ การเปิดห้องให้โปร่ง ไม่วางเฟอร์นิเจอร์ให้รกมากจนเกินไป เพื่อสร้างสไตล์ให้ชัดเจน เฟอร์นิเจอร์ควรใช้เป็นเนื้อไม้ที่มีสีสว่าง โดยเลือกประเภทของไม้ที่มีโทนสีอ่อน หรือโทนออกขาว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้สน (Pine Wood) ไม้เมเปิล (Maple Wood) ไม้เบิร์ช (Birch Wood) ปกติทั่วไปสำหรับ ‘เฟอร์นิเจอร์ไม้แท้’ ก็มักจะนิยมใช้ไม้เนื้อแข็งในการประกอบ เพราะไม้เนื้อแข็งมีความแข็งแรงทนทานสูง ทำให้เฟอร์นิเจอร์สามารถใช้งานได้นาน เช่น ไม้แอช (Ash Wood) ที่มีสีออกน้ำตาลอมเหลืองอ่อนๆ เหมาะกับการใช้ตกแต่งบ้าน หรือห้องนั่งเล่นสไตล์นอร์ดิก เพราะเป็นไม้โทนสว่างที่ให้ความรู้สึกโปร่ง เบา สะอาด และมีลูกเล่นกิมมิค (Gimmick) ด้วย เพราะไม้แอช (Ash Wood) เป็นไม้ที่มีลายไม้เยอะ ซึ่งมีทั้งลายภูเขา และลายตาไม้ในบางจุด

.

  • ผนังต้องเป็นโทนสีขาว

ผนังอิฐสีขาวที่เรียงกันอย่างไม่เพอร์เฟค และเน้นให้เห็นร่องระหว่างอิฐ เพื่อสะท้อนอารมณ์งานแฮนด์เมด และได้ฟีลธรรมชาติมากขึ้น ผนังอิฐสไตล์ Nordic จะไม่แนะนำให้ใช้วอลล์เปเปอร์ 3D หรือกระเบื้องผนังอิฐเป็นแผ่นสำเร็จรูป เพราะการมีผิวสัมผัสที่เป็นอิฐแท้ และขนาดของอิฐแท้แต่ละก้อนนั้นจะไม่เท่ากัน มันเป็นการช่วยเพิ่มเสน่ห์ห้องนั่งเล่นให้ดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติ และโดยทั่วไปถ้าหากจะติดผนังใหม่เข้าไป อาจจะเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องให้ช่างก่ออิฐฉาบปูน ดังนั้นคำแนะนำง่ายๆ คือ เราจะใช้ปูนกาวที่มีประสิทธิภาพในการยึดเกาะสูงในการทำผนังอิฐแทนได้ ทั้งนี้อาจต้องศึกษาวิธีการใช้ เพื่อจะได้มั่นใจว่าวัสดุที่ใช้ปิดทับนั้นมีความแข็งแรงทนทาน

.

  • ตกแต่งบรรยากาศของห้องนั่งเล่นด้วยต้นไม้ เพิ่มความสดชื่น สบายตา และไม่ดูเรียบจนเกินไป

ทุกการตกแต่งจะต้องจัดของให้เป็นระเบียบ และเป็นสัดส่วน เพราะห้องสไตล์นอร์ดิก (Nordic Style)ต้องเรียบร้อย และมีการจัดสรรพื้นที่ให้เหมาะสม ถ้าเราจัดวางเฟอร์นิเจอร์ หรือของตกแต่ง เช่น ต้นไม้โดยเลือกเป็นประเภทไม้ใบ วางไว้ในมุมหนึ่งของห้องนั่งเล่นอย่างเป็นสัดส่วน และคอยทำการตกแต่งดูแลกิ่งก้านใบให้เป็นระเบียบ ก็จะทำให้ห้องนั่งเล่นมีความเป็นธรรมชาติ และโปร่งโล่ง เหมาะกับเป็นห้อง ศูนย์รวมของการพักผ่อนของสมาชิกภายในบ้าน

.

  • เติมการใช้สีดำ หรือเทาบนเฟอร์นิเจอร์

เนื่องจากการตกแต่งภายในที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสไตล์นี้ จะเน้นความสำคัญของฟังก์ชันการใช้งานอย่างเรียบง่ายแล้ว ยังมีดีไซน์ชวนให้ผ่อนคลายเหมาะกับการอยู่อาศัยเป็นอย่างมาก ซึ่งหนึ่งในประเภทของเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งภายในสไตล์นอร์ดิกที่ได้รับความนิยมในการนำมาผสมผสานกับสไตล์การแต่งบ้านหลากหลายประเภทมากที่สุด คือ ‘โซฟา’

โซฟาเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นสำคัญอันเป็นเอกลักษณ์ของห้องนั่งเล่นในบ้าน และยังเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถสะท้อนความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเจ้าของบ้านได้ดีมากๆ โซฟาสไตล์นอร์ดิกส่วนใหญ่จะเป็นขาไม้ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือ ดีไซน์ที่เรียบง่าย เน้นประโยชน์การ ใช้งานมาก่อนความสวยงาม มักเป็นโซฟาที่มีลักษณะชิ้นงานเป็นขอบเรียบเนียนโค้งมนบวกกับรูปทรงการออกแบบที่ดูแล้วสบายตา แต่ในขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกน่าสนใจด้วยการใช้วัสดุเช่นไม้ ตัดกับเบาะนั่ง เบาะพนักพิง หรือหมอนอิง ที่มีโทนสีเทา หรือดำ ซึ่งรูปแบบ และการใช้สีสันเช่นนี้จะทำให้ดูดีมีเสน่ห์ สามารถสร้างมิติของการเชื่อมโยงอารมณ์ และความรู้สึกในเชิงสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นได้

ดังนั้น สำหรับใครที่ชอบความเรียบง่าย ดีไซน์โค้งมน สีสันไม่ฉูดฉาด เป็นงานดีไซน์ที่ชวนให้รู้สึกถึงห้องนั่งเล่นที่สามารถพักผ่อนอย่างอบอุ่น ผ่อนคลาย แถมยังสามารถประยุกต์ใช้กับสไตล์การแต่งบ้านที่หลากหลายแนวได้ เราขอแนะนำให้ใช้โซฟาสไตล์นอร์ดิกโดยสามารถทำการเติมแต่งสีสันองค์ประกอบ รวมถึงการออกแบบจัดวางในแบบที่ลงตัวกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน

.

แนวทางการเลือกใช้โซฟาสไตล์นอร์ดิก เสริมเข้าไปในการตกแต่งห้องนั่งเล่น รูปแบบต่างๆ

  • ห้องนั่งเล่นแบบผสมผสานสไตล์นอร์ดิกกับวัสดุไม้

เหมาะกับบ้านที่ใช้วัสดุไม้ธรรมชาติในการตกแต่งภายใน ซึ่งในการเลือกใช้โซฟาสไตล์นอร์ดิก ก็สามารถเพิ่มเติมลูกเล่นความโดดเด่นด้วยการใช้โซฟาเฉดสีไม้ที่แตกต่างไปจากสีพื้น หรือสีผนัง โดยไม่จำเป็นว่าต้องเป็นสีเทา หรือขาวเท่านั้น

.

  • ห้องนั่งเล่นที่ตกแต่งสไตล์ลอฟท์

ในบรรยากาศดิบเท่ ก็สามารถใช้โซฟาสไตล์นอร์ดิกที่มีรูปทรงเรียบง่ายโค้งมนตั้งไว้ได้ เพราะจะเป็นการช่วยเติมเต็มความรู้สึกนุ่มนวล และอบอุ่นเป็นกันเองให้เพิ่มขึ้น โดยสามารถใช้ไอเดียการตกแต่งจัดวางแบบผสมผสาน เช่น โซฟาสไตล์นอร์ดิกกับชุดโต๊ะกาแฟ พื้นผิวทำจากไม้แบบชนบท ที่ให้อารมณ์ความรู้สึกถึงความแตกต่างอย่างลงตัว

.

  • ห้องนั่งเล่นทั่วไปที่มีโทนสีเรียบง่าย

ห้องนั่งเล่นทั่วไปที่อาจไม่ได้มีการออกแบบสไตล์ที่ชัดเจน แต่มักจะมีวัตถุประสงค์หลักคือ เน้นฟังก์ชันประโยชน์ใช้สอย ห้องประเภทนี้ก็สามารถใช้โซฟาสไตล์นอร์ดิกช่วยตอบโจทย์ได้ด้วยการเลือกใช้เป็นชุดโซฟาแบบเซทขนาดใหญ่ เช่น ชุดโซฟานอร์ดิกที่ประกอบด้วยโซฟาเบด กับเก้าอี้ชุดโซฟา สำหรับให้เลือกใช้เป็นธีมสีเดียวกัน อาจมีการเติมแต่งความมีมิติของห้องด้วยพรมปูพื้น และเลือกใช้โต๊ะกลางโซฟาด้วยโทนสีขาว กับแจกันดอกไม้แห้งที่ช่วยสร้างบรรยากาศสบายๆ ให้กับห้องนั่งเล่น

.

  • ห้องนั่งเล่นที่เน้นองค์ประกอบการตกแต่งเป็นพิเศษกับโซฟานอร์ดิก

ภาพรวมของการตกแต่งรูปแบบนี้ จะมีโซฟานอร์ดิกซึ่งเป็นไม้ บุเบาะรองนั่งด้วยผ้าสีขาว สีเทา หรือดำ เป็นจุดศูนย์กลาง และมิกซ์แอนด์แมทช์การตกแต่งด้วยวัสดุต่างๆ เช่น วัสดุตกแต่งผนังสไตล์โบฮีเมียน (Bohemian Style) ที่ช่วยสร้างสีสันไม่ให้รู้สึกน่าเบื่อเกินไป โดยอาจเป็นของตกแต่งจากขนนก หรือสิ่งของแฮนด์เมดจากวัสดุธรรมชาติ และที่สำคัญคือต้องมีสีหลักที่เชื่อมโยงเข้ากันกับผนังห้องเพื่อจะทำให้ภาพรวมการตกแต่งดูไม่แย่งซีนกัน

.

  • ห้องนั่งเล่นที่ตกแต่งด้วยโทนสีเข้มแบบโมเดิร์น

แม้ว่าภาพลักษณ์ของโซฟานอร์ดิกจะเป็นโทนสีอ่อนๆ หรือสีที่มองดูสบายตา เช่น สีขาว สีเทา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการตกแต่งห้องในภาพรวมจะต้องเป็นสีเรียบง่ายอย่างเดียวเท่านั้น โทนสีเข้มของวัสดุตกแต่ง ก็มีส่วนในการสร้างบรรยากาศอบอุ่น และเงียบสงบได้ เช่น การใช้หมอนอิงโทนสีดำ สีน้ำเงิน ที่จัดวางอย่างลงตัวบนโซฟานอร์ดิก

.

จบไปแล้วกับ 4 ไอเดียเปลี่ยนห้องนั่งเล่นเป็นสไตล์นอร์ดิก เชื่อว่าคุณผู้อ่านน่าจะได้ไอเดียไปปรับใช้ไม่มากก็น้อย ทั้งนี้ทั้งนั้นหากจะสรุปเนื้อหาทั้งหมดก็อาจพูดได้ว่า การออกแบบตกแต่ง หรือเปลี่ยนห้องนั่งเล่นให้มีรูปแบบ Nordic Style นั้น สามารถทำได้อย่างเรียบง่าย เพียงเเต่จำหลักการว่า ให้ใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น และเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้น ในแต่ละห้องควรเป็นโทนสีสว่างเดียวกันเป็นหลัก โดยสามารถใช้สีเทา ดำ น้ำเงิน ตัดเพื่อสร้างความโดดเด่นได้ และเรายังสามารถปรับประยุกต์ตามความชอบส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นการผสมผสานสไตล์ หรือการเลือกใช้สีที่ทำให้เรารู้สึกดี เพราะสิ่งสำคัญคือเราควรจะทำให้ห้องนั่งเล่นเป็นห้องที่น่าอยู่ และมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นน่าสนใจในแบบฉบับของตัวเราเองเป็นสำคัญนะคะ