ในช่วงฤดูฝนกับฤดูหนาว ด้วยสภาพอากาศที่ทำให้สภาพแวดล้อมเกิดความชื้น และอับ อาจจะทำให้หลายบ้านต้องเจอกับปัญหาเชื้อราซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อยสำหรับเฟอร์นิเจอร์ และการที่เราต้องตระหนักถึงเรื่องนี้อย่างจริงจังก็เพราะเชื้อราไม่เพียงแต่ทำให้เฟอร์นิเจอร์ของคุณดูไม่สวยงามเท่านั้น แต่ยังอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพได้อีกด้วย บทความนี้ฟิวเจอร์เทคฯ ได้เอา ความรู้เกี่ยวกับอันตรายของเชื้อรา และคำแนะนำโดยละเอียดเกี่ยวกับวิธีแก้ปัญหาเฟอร์นิเจอร์มีเชื้อราขึ้น โดยครอบคลุมถึงเฟอร์นิเจอร์ที่ผลิตจากวัสดุต่างๆ มาให้คุณผู้อ่านได้ทราบกันค่ะ. . ลักษณะของเชื้อราประเภทต่างๆ ก่อนที่จะเริ่มขั้นตอนการกำจัดเชื้อรา สิ่งสำคัญคือต้องระบุชนิดของเชื้อราที่คุณกำลังจัดการอยู่ เชื้อราที่พบบ่อยที่สุดที่พบในเฟอร์นิเจอร์ ได้แก่ 1. Aspergillusเป็นเชื้อราที่มีศักยภาพในการสร้างสารพิษที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ • ลักษณะ : เป็นเชื้อราที่มีลักษณะเป็นเส้นใยสีเขียว หรือดำ• วิธีสังเกต : มักพบในบริเวณที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว หรือตู้เสื้อผ้า . 2. Stachybotrys chartarumเป็นเชื้อราที่มีศักยภาพในการสร้างสารพิษที่อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ โดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจ และระบบประสาท • ลักษณะ : เป็นเชื้อราที่มีลักษณะเป็นเมือกสีดำ หรือเขียวเข้ม• วิธีสังเกต: มักพบในบริเวณที่มีความชื้นสูง และมีการรั่วซึมของน้ำ เช่น ผนังห้องน้ำ หรือเพดาน . 3. Penicilliumเป็นเชื้อราที่มีศักยภาพในการสร้างสารพิษที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้ และภูมิแพ้ • ลักษณะ : เป็นเชื้อราที่มีลักษณะเป็นเส้นใยสีเขียว หรือน้ำเงิน• วิธีสังเกต : มักพบในบริเวณที่มีความชื้นสูง เช่น อาหารที่เน่าเสีย หรือตู้เย็น . 4. Cladosporiumเป็นเชื้อราที่มีศักยภาพในการสร้างสารพิษที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้ และภูมิแพ้ • ลักษณะ : เป็นเชื้อราที่มีลักษณะเป็นเส้นใยสีดำ หรือน้ำตาล• วิธีสังเกต : มักพบในบริเวณที่มีความชื้นสูง เช่น ดิน หรือใบไม้ที่เปียกชื้น . วิธีสังเกตเชื้อราทั่วไป นอกจากลักษณะเฉพาะของเชื้อราแต่ละประเภทแล้ว ยังมีวิธีสังเกตเชื้อราทั่วไปที่สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่าดังนี้ • เชื้อราสีดำ (มักเกิดในฤดูหนาว)มักเกิดขึ้นในบริเวณที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำ และห้องครัว • เชื้อราสีเขียว (มักเกิดในฤดูหนาว)เชื้อราประเภทนี้สามารถเจริญเติบโตได้ในบริเวณที่มีความชื้นปานกลาง เช่น ใต้เฟอร์นิเจอร์ หรือในตู้เสื้อผ้า • เชื้อราสีขาว (มักเกิดในฤดูฝน)เชื้อราสีขาวมักเกิดขึ้นในบริเวณที่มีความชื้นต่ำ เช่น บนเฟอร์นิเจอร์ไม้ . การแก้ปัญหาเฟอร์นิเจอร์มีเชื้อราขึ้น 1. เฟอร์นิเจอร์ไม้ • ใช้สารละลายน้ำส้มสายชู : ผสมน้ำส้มสายชูขาว 1 ส่วนกับน้ำ 1 ส่วนในขวดสเปรย์ แล้วฉีดลงบนบริเวณที่มีเชื้อรา ทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วเช็ดออกด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ […]
Tag Archives: ตกแต่งบ้าน
ฤดูหนาวมาพร้อมกับความท้าทายที่ไม่เหมือนฤดูฝน โดยเฉพาะกับเฟอร์นิเจอร์ของคุณ เนื่องจากอุณหภูมิที่เย็นจัด ความชื้นต่ำ และแสงแดดที่น้อยลง สภาพอากาศเหล่านี้อาจส่งผลเสียต่อเฟอร์นิเจอร์มากกว่าที่คิด ในบทความนี้ฟิวเจอร์เทคฯ เอาข้อมูลดีดีเกี่ยวกับความเข้าใจว่าสภาพอากาศในช่วงฤดูหนาวส่งผลกระทบกับเฟอร์นิเจอร์ของเราแบบไหนบ้าง และเราจะมีวิธีการดูแลเฟอร์นิเจอร์อันมีค่าของคุณอย่างไร ไปติดตามอ่านกันค่ะ ผลกระทบจากสภาพอากาศในฤดูหนาวที่อาจก่อให้เฟอร์นิเจอร์เสียหายต่อเฟอร์นิเจอร์ 1. การแตกร้าว และหดตัว ความชื้นต่ำสามารถทำให้ไม้ และวัสดุอื่นๆ ในเฟอร์นิเจอร์แห้งและหดตัว ซึ่งอาจนำไปสู่การแตกร้าว และเสียหายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเฟอร์นิเจอร์โบราณหรือเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้เนื้อแข็ง . 2. การหลุดล่อนของสี และสารเคลือบเงา ความชื้นต่ำสามารถทำให้สี และสารเคลือบเงาบนเฟอร์นิเจอร์หลุดล่อนหรือลอกออกได้ เนื่องจากการขาดความชื้นที่จำเป็นในการรักษาความยืดหยุ่น . 3. การบิดงอ และเสียรูป การเปลี่ยนแปลงของระดับความชื้นอย่างรวดเร็ว หรือรุนแรงอาจทำให้เฟอร์นิเจอร์บิดงอ หรือเสียรูปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้เนื้ออ่อนหรือวัสดุที่ไวต่อการเปลี่ยนแปลงของความชื้น . 4. การบวมของเฟอร์นิเจอร์หนัง บรรดาโซฟาเครื่องหนังที่ตั้งอยู่ในบ้าน หากเจอสภาพความชื้นในอากาศที่ต่ำมากๆ อาจทำให้เฟอร์นิเจอร์หนังแห้ง และแข็งซึ่งอาจทำให้เกิดรอยแตกลายได้ . 5. การเกิดไฟฟ้าสถิต ความชื้นต่ำสามารถเพิ่มการเกิดไฟฟ้าสถิต ซึ่งอาจดึงดูดฝุ่น และสิ่งสกปรกมาเกาะบนเฟอร์นิเจอร์ ทำให้เกิดความเสียหายต่อพื้นผิวได้ . 6. แมลง และเชื้อรา ฤดูหนาวจะมีความชื้นสัมพัทธ์ต่ำ และการระเหยสูงซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่แมลงในเนื้อไม้แพร่พันธุ์ง่าย และเป็นสภาพแวดล้อมที่ก่อให้เกิดเชื้อราซึ่งอาจทำให้เฟอร์นิเจอร์เสียหายได้ . วิธีการดูแลเฟอร์นิเจอร์ในฤดูหนาว 1. รักษาความชื้น ความชื้นต่ำในฤดูหนาวอาจทำให้ไม้แห้งและแตกได้ ยิ่งบ้านที่มีเฟอร์นิเจอร์ไม้โบราณล้ำค่าควรต้องหาทางหลีกเลี่ยงความเสียหายเหล่านี้ด้วยการรักษาความชื้นในบ้านของคุณให้คงที่ ด้วยการใช้เครื่องเพิ่มความชื้น ระดับความชื้นในห้องให้เหมาะสมจะมีความชื้นสัมพัทธ์ประมาณ 40-60% หรือหากกรณีสภาพอากาศไม่ได้แห้งมากก็อาจจะใช้วิธีง่ายๆ ในการรักษาความชื้น ด้วยการวางถ้วยน้ำไว้รอบๆ ห้องก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่พอช่วยได้นะคะ . 2. ไม่ปล่อยให้เฟอร์นิเจอร์อยู่ในตำแหน่งที่มีแสงแดดแรง แม้ว่าแสงแดดในฤดูหนาวจะไม่แรงเท่าในฤดูร้อน แต่ก็ยังสามารถทำลายเฟอร์นิเจอร์ได้ แสงแดดในฤดูหนาวมีความเข้มข้นของรังสียูวีสูงกว่าปกติซึ่งทำลายเนื้อไม้ของเฟอร์นิเจอร์โดยทำให้เนื้อไม้แห้งกรอบ และแตกร้าว กรณีเฟอร์นิเจอร์ที่มีองค์ประกอบเป็นหนัง เช่นโซฟาหนัง ความร้อนจากแสงแดดในฤดูหนาวสามารถทำให้หนังของเฟอร์นิเจอร์เสื่อมสภาพได้ โดยทำให้หนังเกิดซีดจาง และแตกแห้ง แนะนำให้ปิดผ้าม่านหรือมู่ลี่เพื่อป้องกันแสงแดดโดยตรง และหมุนเฟอร์นิเจอร์เป็นประจำเพื่อให้ทุกด้านได้รับแสงแดดเท่าๆ กัน . 3. ใช้ผ้าคลุมเฟอร์นิเจอร์ ผ้าคลุมเฟอร์นิเจอร์เป็นวิธีง่ายๆ ในการปกป้องเฟอร์นิเจอร์ของคุณจากฝุ่นละออง ความชื้น และแสงแดด แนะนำให้เลือกผ้าคลุมที่ทำจากวัสดุระบายอากาศได้ดี เช่น ผ้าฝ้าย หรือลินิน . 4. ทำความสะอาดเป็นประจำ ผลกระทบสำคัญของความชื้น คือเชื้อรา โดยเฉพาะในบริเวณที่แสงมักจะส่องไม่ค่อยถึง อากาศไม่ถ่ายเท จึงทำให้ เฟอร์นิเจอร์โดยเฉพาะประเถทตู้เสื้อผ้าจึงกลายเป็นมุมที่เชื้อราสามารถเจริญเติบโตได้ดี เพราะทั้งมืด ทั้งอับ และไม่มีอากาศที่ถ่ายเทอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันไม่ให้เฟอร์นิเจอร์ของคุณมีเชื้อราขึ้นการทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์เป็นประจำเป็นวิธีที่ดี วิธีการทำความสะอาดคือใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ มาเช็ดรอบแรกก่อน หากกรณีพบว่าเฟอร์นิเจอร์มีคราบเชื้อราฝังแน่นก็ให้ใช้กระดาษทรายขัดแล้วเช็ดออก และหลังจากนั้นให้ใช้น้ำส้มสายชู หรือสบู่เหลวผสมกับน้ำเปล่าในขวดสเปรย์นำมาฉีดพ่นลงไปให้ทั่วบริเวณที่เกิดเชื้อราทิ้งไว้ให้แห้งสนิท นี่เป็นเคล็ดลับในการป้องกันการกลับมาของเชื้อราค่ะ . 5. ซ่อมแซมความเสียหายเล็กน้อย หากคุณสังเกตเห็นความเสียหายเล็กน้อย เช่น รอยขีดข่วน รอยบุบ การบิดเบี้ยวให้ซ่อมแซมโดยเร็วที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายมากไปกว่าเดิม คุณสามารถใช้ชุดซ่อมเฟอร์นิเจอร์ หรือปรึกษาช่างซ่อมเฟอร์นิเจอร์มืออาชีพเพื่อจัดการสิ่งเหล่านี้ก่อนจะเข้าฤดูหนาว หรือหากยังไม่มีความเสียหายคุณก็สามารถที่จะบำรุงดูแลความยืดหยุ่นของผิวเฟอร์นิเจอร์ ด้วยการทาสารเคลือบเงาไว้เสมอก็เป็นเรื่องที่ดีค่ะ .
ห้องรับแขก หรือห้องนั่งเล่นเป็นอีกห้องหนึ่งในบ้านที่สามารถสร้างความเพลิดเพลิน และเสียงหัวเราะให้แก่ทุกคนได้ เป็นอีกห้องหนึ่งที่สมาชิกในบ้านจะได้มาพบปะสังสรรค์พูดคุยกัน เรามาลองอ่านกันดูว่า ไอเดียเทคนิคของการจัดแต่งห้องนั่งเล่นที่ดีควรทำอย่างไร จึงจะทำให้ห้องนี้มีบรรยากาศของการพักผ่อนที่ดีได้อย่างยอดเยี่ยม . 1. ตำแหน่งของห้องสำคัญมาก หลีกเลี่ยงการสร้างห้องนั่งเล่นไว้ทางด้านตะวันตกของตัวบ้าน เพราะเป็นช่วงรับแสงแดดอันร้อนแรงยามบ่าย คงไม่มีใครอยากเข้าไปนั่งในห้องที่ร้อนระอุเหมือนเตาไฟแน่ๆ ทางที่ดีควรสร้างไว้ทางทิศใต้ของบ้าน เพื่อจะได้รับลมเย็นๆ . 2. แสงสว่างที่พอดีนำมาซึ่งความกระตือรือร้นผ่อนคลาย ห้องนั่งเล่น ควรมีแสงสว่างที่พอเหมาะ หมั่นเปิดหน้าต่างให้มีการระบายอากาศที่ดี หรือการตกแต่งแสงสว่างในยามค่ำคืนให้มีสีสัน ปรับเปลี่ยนบรรยากาศ ควรเลือกรูปแบบแสงที่ให้แสงนวลตา สว่างใส มองแล้วสบายตา จะทำให้ห้องนั่งเล่นน่าอยู่ ดูอบอุ่นมากขึ้น . 3. เติมแต่งสีเขียวเพิ่มความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติ ต้นไม้ และดอกไม้ประดับ เป็นตัวช่วยที่สะดวก และง่ายสุดในการสร้างบรรยากาศภายในห้องรับแขก เพียงแค่เพิ่มมุมสบายๆ เข้าไปอย่างมุมต้นไม้ หรือวางแจกันดอกไม้เอาไว้ในมุมที่สบายตา ก็สามาถเพิ่มสีสัน และชีวิตชีวาในการพักผ่อนได้ โดยที่สามารถนำเอามาผสมผสานกับองค์ประกอบต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเอาแจกันมาวางไว้บนโต๊ะ หรือวางไว้มุมนั่งเล่น ก็จะสามารถสร้างบรรยากาศที่สบายๆ เหมือนมีสวนเล็กๆ เอาไว้ให้ได้ชื่นชมได้ทุกวัน คุณสามารถเลือกดอกไม้ประดิษฐ์มาใช้ตกแต่งได้ แต่หากใช้เป็นดอกไม้สดก็ต้องหมั่นเปลี่ยนดอกไม้ให้สดใหม่อยู่เสมอ อย่าปล่อยให้ดอกไม้เหี่ยวปักคาแจกัน เพราะทำให้รู้สึกห่อเหี่ยวไม่แจ่มใส . . 4. ที่นั่งเล่นต้องสะดวกสบาย สบายเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้สำหรับนั่งจำพวกโซฟา เก้าอี้ ไม่ควรเลือกโซฟาหรือเก้าอี้ที่นิ่มจนเกินไป เพราะจะทำให้ปวดหลังปวดตัวเวลานั่งนานๆ ควรเลือกซาหรือเก้าอี้ที่มีความแข็ง-ความนิ่มเหมาะสม เพื่อให้นั่งได้อย่างสบาย . 5. โต๊ะกลาง หรือโต๊ะข้างเพื่อความสะดวก การนั่งพักผ่อนอย่างเดียว อาจจะไม่ตอบโจทย์การใช้งานเสมอไป เพราะถ้าหากจะให้องค์ประกอบครบถ้วน ก็ควรจะต้องมีโต๊ะเอาไว้สำหรับวางของ ซึ่งอาจจะเป็นโต๊ะกลาง หรือโต๊ะข้าง ที่พร้อมใช้งาน สามารถวางของต่างๆ ได้ถนัดมือ ไม่ว่าจะเป็นการวาง แก้วน้ำ วางของว่าง บางทีอาจจะใช้วางแจกันดอกไม้เพื่อตกแต่ง หลายคนอาจไม่รู้ว่าโต๊ะกลางเพียงโต๊ะเดียว ก็จะสามารถสร้างความสมบูรณ์แบบให้พื้นที่ภายใน ห้องรับแขกได้เป็นอย่างดีนะคะ . 6. พรมปูพื้นสร้างสัมผัสพิเศษ พรม สามารถทำหน้าที่มอบสัมผัสที่แสนพิเศษที่จะสร้างบรรยากาศในการพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ หลายคนอาจไม่เชื่อว่า พรมปูพื้น จะเป็นองค์ประกอบที่ทำให้ห้องรับแขกสมบูรณ์ได้ แต่อยากให้ลองนึกถึงเวลาเราไปสถานที่ที่ดูหรูหราอบอุ่นผ่อนคลาย จะพบว่าหลายๆ ที่นั้นใช้พรมมาเป็นองค์ประกอบ โดยเฉพาะการเลือกใช้พรมที่มีขนนุ่ม ก็จะทำให้สัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนในทุกย่างก้าว แถมยังสามารถนำเอามาตกแต่งให้เข้ากับบรรยากาศ และสไตล์ของห้องได้อีกด้วย โดยที่การจัดวางสามารถเติมเต็มในส่วนต่างๆ ได้เป็นอย่างดี สามารถเพิ่มบรรยากาศอันแสนอบอุ่นให้มุมพักผ่อนให้เต็มไปด้วยบรรยากาศอันผ่อนคลายได้มากกว่าเดิม . 7. ผ้าม่านช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว บรรยากาศความเป็นส่วนตัวจะช่วยให้การพักผ่อนสมบูรณ์แบบได้ ซึ่งสามารถทำได้โดยการติดตั้งผ้าม่านเอาไว้บริเวณหน้าต่าง ของมุมโต๊ะนั่งเล่น หรืออาจจะเป็นการติดตั้งม่านสองชั้น ที่สามารถใช้ในการกรองแสงระหว่างวันได้ ก็จะสามารถสร้างบรรยากาศความเป็นส่วนตัวได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญผ้าม่านยังมอบความเป็นส่วนตัวให้กับมุมที่ชวนมองได้อย่างน่าประทับใจได้อีกด้วย . . เป็นอย่างไรกันบ้างคะ หวังว่าจะได้ไอเดียไปปรับประยุกต์ใช้กับห้องนั่งเล่นกันหลายข้อเลยนะคะ อย่าปล่อยให้ชีวิตต้องอยู่ภายใต้บรรยากาศแบบเดิมนานเกินไป ลองลุกขึ้นมาจัดบ้าน ปรับเปลี่ยนห้องนั่งเล่นของคุณให้เต็มไปด้วยความรู้สึกสดชื่น สุข สนุก และอบอุ่น เพื่อเติมพลังให้ทุกเวลาของการพักผ่อนกันค่ะ
‘สรรค์สร้างเฟอร์นิเจอร์ร่วมสมัยด้วยการใช้ปุ่มจับเก๋ไก๋ให้กับหน้าบาน’ ปุ่มจับบานตู้ คืออุปกรณ์ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ที่ทำหน้าที่เดียวกับมือจับ ซึ่งนับได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะกับส่วนของบานประตูเฟอร์นิเจอร์ ปุ่มจับช่วยให้เปิดตู้ หรือลิ้นชักง่ายขึ้น ในขณะที่มือจับประตูช่วยให้ห้องดูกลมกลืน รูปแบบ และสไตล์ของมือจับส่วนมากมักจะเลือกใช้ให้มีความเชื่อมโยงกับสไตล์การตกแต่ง ส่วนปุ่มจับก็จะใช้ช่วยเสริมให้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นเล็กอย่างตู้ หรือลิ้นชักให้มีลูกเล่นที่สวยงาม มีเสน่ห์เฉพาะตัว แต่โดยรวมแล้วเราสามารถสรุปได้ว่า ปุ่มจับ และมือจับเป็นอุปกรณ์ตกแต่งที่จะทำให้เฟอร์นิเจอร์ของเราสวยสมบูรณ์แบบขึ้นได้มากๆ . ลักษณะการใช้งานปุ่มจับ รูปลักษณ์ และดีไซน์ของปุ่มจับที่เลือกใช้จะส่งผลต่อภาพรวมของเฟอร์นิเจอร์ และบรรยากาศนั้นๆ เนื่องจากลักษณะการใช้งานของปุ่มจับสำคัญที่ความถนัดในการจับเพื่อดึง ดังนั้นในการเลือกใช้นอกจากแบบดีไซน์ที่ตอบสนองรสนิยม และความชื่นชอบของตัวผู้ใช้เป็นสำคัญแล้ว เราก็ควรจะต้องคำถึงถึงบริเวณที่จะติดตั้ง และรูปแบบที่ตอบโจทย์การใช้งานด้วย เช่น หากใช้เพื่อเปิดบานตู้ หรือดึงลิ้นชัก แนะนำให้เลือกใช้ปุ่มจับแบบที่มีความเหมาะมือกับผู้ใช้เพื่อจะได้จับดึงได้สะดวก หรือถ้าจะใช้เป็นมือจับก็ควรเลือกที่มีขนาดสั้นๆ ให้สัมพันธ์กับขนาดของเฟอร์นิเจอร์โดยไม่ลืมเรื่องความสวยงาม และความรู้สึกในยามสัมผัสเป็นสำคัญด้วย . แนะนำปุ่มจับรุ่นใหม่ที่เหมาะกับการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์สไตล์ร่วมสมัย หากใครชื่นชอบสไตล์การตกแต่งบ้านแบบ Contemporary ที่มีการผสมผสานแนวการตกแต่งของสไตล์ Classic และสไตล์ Modern เข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นแนวการตกแต่งที่เป็นที่นิยมตลอดกาลอย่างไม่เคยตกเทรนด์ เนื่องจากมันให้ความรู้สึกเป็นกลางๆ กำลังดีไม่หรูหราฟู่ฟ่าเกินไปแบบคลาสสิคจ๋า และไม่ดูทันสมัยล้ำเกินไปในแบบโมเดิร์น หัวใจความงามของเฟอร์นิเจอร์ร่วมสมัย มันเด่นตรงที่ความเรียบง่ายจากการลดทอนปรับปรุงรายละเอียดของแต่ละชิ้น จึงทำให้เฟอร์นิเจอร์ออกมาดูเรียบง่าย และมีความอเนกประสงค์ใช้งานได้จริง และเมื่อปุ่มจับ/มือจับ เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เสมือนเครื่องประดับให้กับหน้าบาน และลิ้นชัก เราจึงสามารถเลือกใช้มันเป็นจุดเด่นองค์ประกอบหลัก หรือใช้เป็น Gimmick ลูกเล่นที่สำคัญในการตกแต่งตู้เฟอร์นิเจอร์ให้ออกมาลงตัวได้ […]
เมื่อหน้าฝนมาเยือนอย่างเป็นทางการ ข้อดีคือช่วยดับความร้อนระอุของอุณหภูมิในบ้านเราให้คลายลงได้ แต่ในอีกมุมหนึ่งเราก็ต้องมีการวางแผนให้ดีในเรื่องของการป้องกันดูแลปัญหาเรื่องบ้านที่มากับหน้าฝน เพราะน้ำฝน และความชื้น เป็นสาเหตุใหญ่ที่สร้างความเสียหายทั้งภายใน และภายนอกบ้านได้มากกว่าที่คิด ดังนั้นแล้วบทความนี้ ฟิวเจอร์เทคฯ ได้รวบรวมสิ่งที่ต้องทำหลักๆ เพื่อเตรียมความพร้อมป้องกันไว้แต่เนิ่นๆ เพื่อที่จะไม่ต้องเจอกับความเสียหายที่บานปลายมาให้คุณผู้อ่านได้ไปสำรวจตรวจสอบบ้านของตัวเองกันก่อนนะคะ . ตรวจสอบรอยรั่ว . ตรวจสอบพื้นบ้านว่ามีรอยรั่วหรือไม่ โดยเฉพาะบริเวณห้องน้ำและห้องครัว ซึ่งเป็นจุดที่มักเกิดปัญหาน้ำรั่วซึมได้บ่อย จุดสังเกตว่าบริเวณนั้นๆ อาจมีการรั่วซึมคือจะความชื้นโดยให้สังเกตจากกลิ่นอับ หรือคราบน้ำ หากพบจุดที่เป็นปัญหาให้รีบแก้ไขทันทีเพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราและความเสียหายน้ำที่อาจซึมเข้าไปในโครงสร้างของบ้าน กรณียังไม่เกิดปัญหาใดๆ ก็อย่าเพิ่งวางใจกันนะคะ สิ่งที่เราสามารถทำเพื่อกันไว้ก่อนคือ นอกจากจะหมั่นทำความสะอาดพื้นฐานแล้วให้เคลือบพื้นเป็นประจำเพื่อป้องกันความชื้น และน้ำซึมเข้าไปในพื้นบ้าน โดยเฉพาะบ้านที่เป็นพื้นไม้ และพื้นลามิเนตเพราะมันไวต่อความชื้นมากๆ ค่ะ . ทาสีบ้าน . การทาสีบ้านใหม่เป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยรับมือกับฝนได้ดีเพราะช่วยทำให้ความชื้นซึมเข้าสู่ตัวบ้านได้ง่ายๆ ยิ่งหากบ้านของเรามีสีที่เริ่มหลุด ลอกร่อน นอกจากจะทำให้บ้านดูเก่า และโทรม แล้ว มันยังเป็นการบ่งบอกว่าผนังปูนเริ่มเกิดความเสื่อมโทรม จึงถึงเวลาที่ควรจะทาสีบ้านใหม่ และหากเป็นไปได้ ควรเลือกใช้สีทาภายนอกคุณภาพดีที่มีคุณสมบัติในการป้องกันความชื้น กันเชื้อรา และทำความสะอาดได้ง่าย ก็จะเป็นการตอบโจทย์เรื่องการรับมือกับฤดูฝนในระยะยาวได้ด้วย . พื้นบ้าน . ตรวจสอบพื้นบ้าน หากมีรอยรั่วหรือชำรุดให้รีบซ่อมแซมเพื่อป้องกันน้ำขัง และความชื้น โดยเฉพาะบริเวณห้องน้ำ และห้องครัว ซึ่งเป็นจุดที่มักเกิดปัญหาน้ำรั่วซึมได้บ่อย เนื่องจากพื้นบ้านเป็นส่วนที่สัมผัสกับน้ำโดยตรง หากมีรอยรั่วหรือชำรุด น้ำอาจซึมเข้าไปภายในบ้านได้ ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา เช่น ความชื้น และเชื้อรา ความชื้นเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของเชื้อรา และเชื้อราเหล่านี้อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น ภูมิแพ้ และโรคระบบทางเดินหายใจกับผู้อยู่อาศัยได้ อีกทั้งน้ำที่ซึมเข้ามาในบ้านเป็นเวลานานอาจทำให้โครงสร้างบ้านเสียหายได้ เช่น ทำให้ไม้ผุ หรือเหล็กเป็นสนิม ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอันตรายต่อความปลอดภัยของโครงสร้างผู้อยู่อาศัยได้ ยังไม่รวมถึงความเสียหายที่อาจเกิดกับข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ . ทำความสะอาดรางน้ำฝน . ไม่ว่าบ้านของเราจะใช้รางน้ำฝน แบบใด ปัญหาที่พบได้เหมือนๆ กันก็คือ มีใบไม้ กิ่งไม้แห้ง หรือเศษขยะเข้าไปกองสุมภายในรางอุดตันกีดขวางทางไหลของน้ำฝน เมื่อฝนตกก็ทำให้น้ำล้นราง และเอ่อล้นไหลย้อนรั่วซึมเข้าตัวบ้าน และบางกรณีอาจจะไหลเข้าไปในฝ้าเพดานจนอาจเกิดความเสียหายขึ้นได้ ดังนั้นเราจึงต้องหมั่นสังเกตให้ดีว่าท่อน้ำทิ้ง หรือรางน้ำฝนยังใช้งานได้ดีอยู่หรือเปล่า ถ้าไม่มีน้ำไหลลงมาเมื่อฝนตกก็แปลว่าตันแน่นอน เราก็ควรจะต้องกำจัดเสร็จอุดตันเหล่านั้นออกไป และแก้ไขด้วยการทำตะแกรงครอบ หรือปิดรางน้ำฝนไว้เพื่อป้องกันเศษใบไม้ไปอุดตันในรางแต่น้ำฝนยังไหลลงช่องระบายน้ำได้ . จัดการท่อระบายน้ำ และบ่อดักขยะ . เช่นเดียวกับรางน้ำฝน ท่อระบายน้ำ และบ่อดักขยะก็มักเป็นส่วนที่มีเศษใบไม้ กิ่งไม้ เศษขยะ หรือโคลนเข้าไปสะสมอุดตันเป็นต้นเหตุให้เกิดน้ำท่วมขังเช่นกัน เราควรที่จะตักเศษดินโคลนออกจากบ่อเพื่อเปิดทางเดินในการระบายน้ำ และที่สำคัญอีกส่วนของบ้านคือระเบียง หรือเฉลียง ซึ่งควรที่จะล้างและทำความสะอาดด้วยเพื่อป้องกันการอุดตันของท่อ . ตัด ทอน กิ่งไม้ใหญ่ใกล้บ้าน . บ้านหลายหลังจะมักมีต้นไม้ใหญ่ไว้ให้ความร่มรื่นภายในบริเวณบ้าน แต่สำหรับหน้าฝนนั้น เราต้องทำการตัดแต่งต้นไม้ใหญ่ เพราะต้นไม้ใหญ่อาจสร้างปัญหาที่เราไม่คาดคิด เช่นใบไม้ที่ร่วงหล่นมาอุดตันจุดระบายน้ำ รวมถึงกิ่งไม้ที่อาจจะยื่นเข้ามาภายในตัวบ้านหรือยื่นมาติดกับหลังคา ที่อาจจะทำให้เกิดปัญหาในยามฝนฟ้าลมแรงได้ค่ะ . เปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ . บางบ้านมีความคิดว่าหน้าฝนควรปิดหน้าต่างไว้เพราะกลัวฝนจะสาดเข้า แต่ในความเป็นจริงแล้วการเปิดหน้าต่างในฤดูฝน (ไม่ใช่ตอนฝนตก) มันเป็นการช่วยระบายความชื้นได้โดยหลักวิทยาศาสตร์ได้อธิบายว่า เมื่อเปิดหน้าต่าง อากาศชื้นภายในบ้านจะไหลออกไปด้านนอก และอากาศแห้งจากภายนอกจะไหลเข้ามาแทนที่ ทำให้ความชื้นในอากาศภายในบ้านลดลง เรียกว่าเป็นการแลกเปลี่ยนอากาศ ดังนั้น การเปิดหน้าต่างในฤดูฝนจึงช่วยระบายความชื้นได้ โดยเฉพาะในห้องที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำ และห้องครัว จึงเป็นหนึ่งในวิธีการที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดเชื้อรา และความเสียหายต่อบ้านได้ค่ะ ฤดูฝนเป็นช่วงเวลาที่เราต้องใส่ใจดูแลบ้านเป็นพิเศษ เพราะความชื้น และฝนที่ตกหนักอาจทำให้เกิดความเสียหายได้ หากเราเตรียมความพร้อม และดูแลบ้านอย่างถูกวิธี ก็จะช่วยป้องกันความเสียหายเหล่านั้นได้ และหากพบความเสียหายใดๆ กับอุปกรณ์ หรือเฟอร์นิเจอร์ในบ้านก็อย่ารอช้าให้รีบซ่อมแซมโดยเร็วที่สุดเพื่อทุกอย่างจะได้ไม่บานปลาย เรียกว่ามาทำให้บ้านของเราปลอดภัย และน่าอยู่ในฤดูฝนกันนะคะ
หากพูดถึงฤดูฝน เชื่อว่าคงเป็นฤดูที่ใครหลายๆ คนอาจค่อยชอบ โดยเฉพาะปัญหาความเฉอะแฉะ และในส่วนของบ้านที่อยู่อาศัย ปัญหาทางด้านความชื้นที่มักเกิดกับเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ภายใน และภายนอกบ้าน โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ที่มีองค์ประกอบเป็นไม้ รวมทั้งประตูบ้านก็อาจได้รับผลกระทบจากความชื้น ที่ทำให้เกิดความเสียหาย มีประสิทธิภาพการใช้งานไม่ดี มีปัญหาฝืดเคือง บวม บิด ขึ้นรา ในบทความนี้ฟิวเจอร์เทคฯ ได้รวบรวมเอาวิธีง่ายๆ ที่คุณผู้อ่านสามารถทำได้ด้วยตัวเองในการดูแล ป้องกัน แก้ไขปัญหาของ ประตู หน้าต่าง และเฟอร์นิเจอร์ไม้ ให้สามารถใช้ได้อีกยาวนานผ่านหน้าฝนไปได้ด้วยดีกันนะคะ . 1. เก็บเฟอร์นิเจอร์ไม้ให้อยู่ในที่แห้ง ในช่วงหน้าฝน หากดูพยากรณ์อากาศแล้วว่าจะมีฝนตก ให้นำเฟอร์นิเจอร์ไม้เก็บให้พ้นน้ำ เพราะเฟอร์นิเจอร์ไม้มักจะผุ หรือบวมได้ง่าย หรือถ้าไม่มีที่เก็บ อาจจหาผ้าใบคลุมไว้ เมื่อฝนหยุดก็ให้เช็ดทำความสะอาดส่วนที่เปียก หรือนำเฟอร์นิเจอร์ไม้ไปผึ่งระบายอากาศเมื่อแดดออก แต่แนะนำว่าให้เป็นแดดช่วงเช้า . 2. หมั่นเช็ดทำความสะอาด พวกเฟอร์นิเจอร์ไม้มักจะเปื้อน เป็นเนื้อวัสดุที่จับฝุ่นฝังลึกได้ง่าย หากเวลาฝนตกก็จะเป็นที่รวมความสกปรกติดเนื้อไม้ ยากที่จะขัดออก ดังนั้น จำเป็นต้องตรวจเช็ค และทำความสะอาดอยู่เสมอ โดยใช้ผ้าชุบน้ำสบู่แบบเจือจาง ชุบหมาดๆ แล้วผึ่งให้แห้งไวที่สุด มิเช่นนั้นไม้อาจจะบวมน้ำได้ครับ . 3. ทาน้ำยาเคลือบผิวไม้ เคลือบสีไม้ […]
“ชุดตะแกรงชั้นจัดเก็บของรูปแบบติดในตู้ ที่สามารถดึงออกมาได้ จะเป็นผู้ช่วยที่จะสร้างความเป็นระเบียบให้ จากตู้ใบเดิมที่จะถูกเนรมิตพื้นที่ใหม่ ให้ใช้งานสะดวกได้ ได้ลุคเป็นระเบียบ” . ตู้สูงที่เราจะพูดถึงกันในบทความนี้ หมายถึงประเภทตู้ ที่สูงกว่าตู้เก็บของทั่วไป แล้วเรามักจะพบตู้ประเภทนี้บ่อยได้ตามบ้านที่ทำตู้ built-in สูงจนสุดเพดาน ความจริงตู้สูงเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับการออกแบบตกแต่งภายใน เพราะนอกจากเป็นเรื่องของความสวยงามแล้ว มันยังคุ้มค่าในแง่ของการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมากตู้สูงนี้นิยมใช้เพื่อตอบโจทย์โดยเฉพาะกับตู้เสื้อผ้า ตู้ครัว และในบทความนี้ เราจะชวนคุณผู้อ่านมาพูดถึงตู้สูงสำหรับจัดเก็บอุปกรณ์เครื่องครัวต่างๆ ของห้องครัวกันค่ะ หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับรูปแบบฟังก์ชันภายในตู้ ที่มีการแบ่งสัดส่วนเป็นชั้นเก็บของหลากหลายช่อง ซึ่งแต่ละช่องนั้นก็อาจมีความสูงที่อาจเท่ากัน หรือสูงเตี้ยแตกต่างกันไปเพื่อรองรับการเก็บของใช้ในครัว และก็ยังมีการออกแบบให้มีบานปิดมิดชิดเพื่อกันสิ่งสกปรก ฝุ่นละอองเกาะจับของ และบ้านปิดของตู้ยังเป็นการช่วยยืดอายุการเก็บรักษาพวกวัตถุดิบ รวมถึงเครื่องปรุงอาหารได้ด้วย แต่ปัญหาของตู้สูงที่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่จะต้องเจอคือ ความยากลำบากในการเข้าถึงพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่อยู่ด้านบนสุด รวมถึงพื้นที่ที่อยู่ลึกสุดของตู้ ทำให้หลายๆ บ้านได้สูญเสียประโยชน์การใช้งานจากพื้นที่เหล่านั้นไป บางบ้านก็ใช้เป็นที่เก็บของใช้ที่นานๆ ใช้ที หรือเอาของที่ไม่ต้องหยิบใช้บ่อยไปเก็บไว้ และกลายเป็นว่าพื้นที่นั้นก็กลายเป็นพื้นที่เก็บฝุ่น และอาจชื้นมีกลิ่นอับ เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค ฯลฯ . หากใครกำลังเจอกับปัญหานี้จับตู้สูงที่มีอยู่ หรืออยากจะทำตู้ครัวที่เป็นทรงสูงและกำลังมองหาไอเดียที่จะตอบโจทย์การใช้งานอย่างคุ้ม ข่าวดีคือสมัยนี้ในวงการออกแบบเค้ามีพวกอุปกรณ์ฟังก์ชันเสริมมากมายสำหรับตู้สูงมาให้เราเลือกใช้ รูปแบบของมันถูกดีไซน์ออกมาเป็นชุดตะแกรงลิ้นชักตู้สำหรับตู้สูง ต้องยอมรับว่ามันเป็นอุปกรณ์ที่ดีที่ช่วยแก้ปัญหาความไม่สะดวกสบายในการจะเข้าถึงพื้นที่ด้านบน หรือการเข้าถึงพื้นที่ที่อยู่ด้านในของตู้สูง แบบตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้อย่างตรงจุดจริงๆ ด้วยความที่อุปกรณ์นี้เป็นอุปกรณ์ฟังก์ชัน เราจึงสามารถใช้ติดตั้งเสริมเพิ่มเข้าไปกับตู้เดิมที่มีอยู่ได้ ขอเพียงแค่เลือกอุปกรณ์รุ่นที่มีขนาดเข้ากันได้กับพื้นที่ของตู้สามารถ ลักษณะการทำงานของตัวอุปกรณ์จะเป็นชุดตะแกรงที่เราต้องทำการติดตั้งไว้กับโครงตู้ด้านใน และบางรุ่นอาจจะต้องติดตั้งตัวตะแกรงยึดไว้กับหน้าบานตู้ […]
ประตูบานเลื่อน ประตูสำหรับพื้นที่จำกัด สำหรับบ้านใครที่มีห้องที่มีพื้นที่น้อยไม่สามารถเปิดปิดประตูแบบบานสวิงทั่วไปได้ ชวนมาลองใช้เป็นประตูแบบบานเลื่อนแทน มันเป็นรูปแบบประตูที่สามารถใช้เป็นประตูสำหรับห้องนอนก็ได้ประตูห้องน้ำก็ดี มันเป็นประตูที่มีการใช้งานในลักษณะ ประตูบานเลื่อนเปิดปิดซ้ายขวา ซึ่งเป็นทิศทางที่ช่วยลดพื้นที่ในการปิดเปิด โดยรูปแบบการติดตั้งจะเป็นการประหยัดพื้นที่เพราะ ตัวประตูบานเลื่อนจะแนบไปกับแนวผนังห้อง รูปแบบของประตูบานเลื่อนสามารถเข้าได้กับบ้านทุกสไตล์ เราแค่เลือกวัสดุบานประตู กับลวดลายให้ตรงกับดีไซน์ที่ต้องการให้ดี ส่วนที่เหลือก็เป็นเรื่องของการเลือกอุปกรณ์บานเลื่อน ที่เหมาะสมตอบโจทย์ เพื่อจะทำหน้าที่ยึดประตูไว้ให้เราสามารถใช้งานได้อย่างสะดวก และปลอดภัย และในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับชุดอุปกรณ์บานเลื่อน ที่ตอบโจทย์สำหรับประตูไม้ โดยก่อนอื่นเรามารู้จักกับประเภทต่างๆ ของประตูไม้กันค่ะ . ประตูบานเลื่อนไม้มีกี่ประเภท? บานเลื่อนไม้จะแบ่งประเภทตามวัสดุ และวิธีการผลิต ดังนี้ ประเภทที่ 1. ประตูบานเลื่อนไม้สังเคราะห์ ประตูไม้สังเคราะห์ หรือประตู WPC หรือย่อมาจาก Wood Plastic Composite คือการนำเอาวัสดุสองชนิดมาผสมกัน ในกรณีนี้คือการนำเอาผงไม้ ขี้เลื่อยไม้ หรือเส้นไยไม้ มาผสมกับเรซิ่นที่เป็น พีวีซี เพื่อให้ได้วัสดุที่มีความรู้สึกเหมือน หรือใกล้เคียงกับไม้ แต่มีคุณสมบัติที่ทนต่อน้ำ และความชื้น ปลวกและแมลงจะไม่กัดกิน และไม่ลามไฟ หากจะเลือกบานประตูไม้ประเภทนี้มาใช้งานควรเลือกรุ่นที่มีหน้าตัดไม่น้อยกว่า 35มม. x 25มม. เพราะเป็นระยะขั้นต่ำที่สามารถยึดติดกับชุดอุปกรณ์แขวนประตูบานเลื่อนได้อย่างแข็งแรง . ประเภทที่ […]
ห้องนั่งเล่น หรือห้องรับแขก ถือว่าเป็นพื้นที่ที่เป็นศูนย์กลางของบ้าน เป็นห้องที่สร้างความบันเทิง และความผ่อนคลายให้กับสมาชิกภายในบ้าน ซึ่งในแต่ละบ้านก็จะมีพื้นที่ใช้สอย และสไตล์ความชอบที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นความต้องการในเรื่อง สี รูปแบบ และขนาดย่อมแตกต่างกันออกไปด้วยเช่นกัน ทั้งนี้สิ่งสำคัญอีกเรื่องหนึ่งก็คือ ห้องนี้มันยังทำหน้าที่เป็นห้องรับแขก เป็นห้องที่แสดงออกถึงความเป็นหน้าเป็นตาของเจ้าของบ้าน ดังนั้นแล้วเราก็ควรที่จะต้องมองหาการดีไซน์ รูปแบบการใช้งานที่เหมาะสม และดึงความตายความเป็นเจ้าของมาใช้เป็นองค์ประกอบในการตกแต่งด้วย และโซฟาก็เหมือนจะเป็นอุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักของห้องนี้ ดังนั้นแล้ววันนี้ฟิวเจอร์เทคฯ จึงได้รวบรวมสไตล์ของห้องนั่งเล่นและโซฟาที่เข้ากันมาฝาก เราไปอ่านดูกันว่าสไตล์โซฟาแบบไหนที่ใช่สำหรับคุณกันค่ะ . 1. Style Industrial . เป็นอีกหนึ่งสไตล์ที่อยู่ในใจใครหลายๆคน ด้วย เก๋ เท่ และมีวัสดุที่มีเอกลักษณ์ อาทิเช่น โครงเหล็ก ท่อ รูปแบบอาหาคทรงโปร่งโล่งทำให้สไตล์อินดัสเทรียล ไม่มีทีท่าว่าจะเสื่อมความนิยมลงได้ง่ายๆ ในส่วนของการตกแต่ง เน้นการผสมผสานความเป็น Vintage (วินเทจ) และ Loft (ลอฟท์) ของเฟอร์นิเจอร์ไว้ด้วยกัน โดยใช้สีเอิร์ธโทนเป็นตัวนำทาง เพื่อความคลาสสิค และมีสไตล์มากยิ่งขึ้น สำหรับห้องนั่งเล่น การเลือกใช้โซฟาหนัง ดูจะเข้ากับการตกแต่งสไตล์นี้มากที่สุด เพราะ หนัง แต่ละชนิดจะมีเอกลักษณ์และลวดลายเป็นของตัวเอง นั้นหมายความว่าหากมี โซฟาหนัง […]
อะไรจะดีเท่ากับการใช้ชีวิตในบ้านที่ตกแต่งแบบที่เราชอบด้วยมือของตัวเอง วันนี้ฟิวเจอร์เทคฯ จะชวนคุณมาดูไอเดียแต่งบ้านให้สวยในเวอร์ชันประหยัดกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่เราจะได้มากกว่าการไม่ต้องจ่ายเงินให้สิ้นเปลือง เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะได้รับแรงบันดาลใจ และรู้สึกภาคภูมิใจกับฝีมือตกแต่งบ้านในแบบฉบับ DIY ด้วยตัวเองกันด้วยนะคะ สำหรับคนรักบ้านนั้น เชื่อว่านอกจากจะไม่ยอมปล่อยให้บ้านดูธรรมดาๆ น่าเบื่อ แต่การจะตกแต่งบ้านเพื่อสร้างบรรยากาศในบ้านให้ทั้งดูดี และน่าอยู่ ก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายที่สูง ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาดูกันว่า บรรยากาศบ้านจะเปลี่ยนไปได้ยังไงบ้าง ขอบอกว่าบางอย่างใช้งบประมาณแค่ 0 บาท ก็เสกบ้านให้สวยงามได้ ไปติดตามอ่านกันเลยค่ะ . ไอเดียที่ 1. เปลี่ยนมุมใหม่ๆ ให้กับเฟอร์นิเจอร์ . ถ้าหากคุณต้องการเปลี่ยนบรรยากาศบ้านให้ดูดีขึ้น คุณอาจใช้วิธีจัดบ้านใหม่ ย้ายเฟอร์นิเจอร์ไปมุมใหม่ๆ แทนก็ได้ มันเป็นไอเดียที่ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มเลยสักบาทเดียว ลองสลับปรับเปลี่ยนมุมต่างๆ และอาจจะใช้ของตกแต่งเป็นธีมองค์ประกอบเพิ่มเติมลงไป เพียงเท่านี้ เราจะได้บรรยากาศใหม่ๆ และถือโอกาสจัดบ้านให้เป็นระเบียบ โดยแทบไม่เสียเงินเลยนะคะ . ไอเดียที่ 2. สร้างบรรยากาศใหม่ในบริเวณผนังกำแพง . คุณอาจสร้างกำแพงผนังภาพครอบครัว มันเป็นไอเดียการสร้างสรรค์ที่ดีต่อใจ เพราะนอกจากความสวยงามแล้วมันยังให้ซึ่งคุณค่าความรู้สึกกับสมาชิกในครอบครัวได้ด้วย รูปครอบครัวนั้นเชื่อว่าทุกบ้านต้องมีอยู่แล้ว และต้นทุนส่วนนี้คือ 0 บาท แล้วคุณอาจจะลงทุนเอารูปภาพครอบครัวหลายๆ รูปมาใส่กรอบให้สวยงาม เพื่อติดผนังกำแพงในห้องรับแขก หรือกำแพงด้านนึงบริเวณโถงกลางของบ้าน โดยเลือกสไตล์ของกรอบเพื่อให้ภาพรวมแมทกับดีไซน์บ้าน แต่หากอยากได้ความสนุก และหลากหลายก็อาจเลือกกรอบที่เป็นสไตล์ที่ต่างออกไป […]