ฤดูหนาวมาพร้อมกับความท้าทายที่ไม่เหมือนฤดูฝน โดยเฉพาะกับเฟอร์นิเจอร์ของคุณ เนื่องจากอุณหภูมิที่เย็นจัด ความชื้นต่ำ และแสงแดดที่น้อยลง สภาพอากาศเหล่านี้อาจส่งผลเสียต่อเฟอร์นิเจอร์มากกว่าที่คิด ในบทความนี้ฟิวเจอร์เทคฯ เอาข้อมูลดีดีเกี่ยวกับความเข้าใจว่าสภาพอากาศในช่วงฤดูหนาวส่งผลกระทบกับเฟอร์นิเจอร์ของเราแบบไหนบ้าง และเราจะมีวิธีการดูแลเฟอร์นิเจอร์อันมีค่าของคุณอย่างไร ไปติดตามอ่านกันค่ะ ผลกระทบจากสภาพอากาศในฤดูหนาวที่อาจก่อให้เฟอร์นิเจอร์เสียหายต่อเฟอร์นิเจอร์ 1. การแตกร้าว และหดตัว ความชื้นต่ำสามารถทำให้ไม้ และวัสดุอื่นๆ ในเฟอร์นิเจอร์แห้งและหดตัว ซึ่งอาจนำไปสู่การแตกร้าว และเสียหายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเฟอร์นิเจอร์โบราณหรือเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้เนื้อแข็ง . 2. การหลุดล่อนของสี และสารเคลือบเงา ความชื้นต่ำสามารถทำให้สี และสารเคลือบเงาบนเฟอร์นิเจอร์หลุดล่อนหรือลอกออกได้ เนื่องจากการขาดความชื้นที่จำเป็นในการรักษาความยืดหยุ่น . 3. การบิดงอ และเสียรูป การเปลี่ยนแปลงของระดับความชื้นอย่างรวดเร็ว หรือรุนแรงอาจทำให้เฟอร์นิเจอร์บิดงอ หรือเสียรูปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้เนื้ออ่อนหรือวัสดุที่ไวต่อการเปลี่ยนแปลงของความชื้น . 4. การบวมของเฟอร์นิเจอร์หนัง บรรดาโซฟาเครื่องหนังที่ตั้งอยู่ในบ้าน หากเจอสภาพความชื้นในอากาศที่ต่ำมากๆ อาจทำให้เฟอร์นิเจอร์หนังแห้ง และแข็งซึ่งอาจทำให้เกิดรอยแตกลายได้ . 5. การเกิดไฟฟ้าสถิต ความชื้นต่ำสามารถเพิ่มการเกิดไฟฟ้าสถิต ซึ่งอาจดึงดูดฝุ่น และสิ่งสกปรกมาเกาะบนเฟอร์นิเจอร์ ทำให้เกิดความเสียหายต่อพื้นผิวได้ . 6. แมลง และเชื้อรา ฤดูหนาวจะมีความชื้นสัมพัทธ์ต่ำ และการระเหยสูงซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่แมลงในเนื้อไม้แพร่พันธุ์ง่าย และเป็นสภาพแวดล้อมที่ก่อให้เกิดเชื้อราซึ่งอาจทำให้เฟอร์นิเจอร์เสียหายได้ . วิธีการดูแลเฟอร์นิเจอร์ในฤดูหนาว 1. รักษาความชื้น ความชื้นต่ำในฤดูหนาวอาจทำให้ไม้แห้งและแตกได้ ยิ่งบ้านที่มีเฟอร์นิเจอร์ไม้โบราณล้ำค่าควรต้องหาทางหลีกเลี่ยงความเสียหายเหล่านี้ด้วยการรักษาความชื้นในบ้านของคุณให้คงที่ ด้วยการใช้เครื่องเพิ่มความชื้น ระดับความชื้นในห้องให้เหมาะสมจะมีความชื้นสัมพัทธ์ประมาณ 40-60% หรือหากกรณีสภาพอากาศไม่ได้แห้งมากก็อาจจะใช้วิธีง่ายๆ ในการรักษาความชื้น ด้วยการวางถ้วยน้ำไว้รอบๆ ห้องก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่พอช่วยได้นะคะ . 2. ไม่ปล่อยให้เฟอร์นิเจอร์อยู่ในตำแหน่งที่มีแสงแดดแรง แม้ว่าแสงแดดในฤดูหนาวจะไม่แรงเท่าในฤดูร้อน แต่ก็ยังสามารถทำลายเฟอร์นิเจอร์ได้ แสงแดดในฤดูหนาวมีความเข้มข้นของรังสียูวีสูงกว่าปกติซึ่งทำลายเนื้อไม้ของเฟอร์นิเจอร์โดยทำให้เนื้อไม้แห้งกรอบ และแตกร้าว กรณีเฟอร์นิเจอร์ที่มีองค์ประกอบเป็นหนัง เช่นโซฟาหนัง ความร้อนจากแสงแดดในฤดูหนาวสามารถทำให้หนังของเฟอร์นิเจอร์เสื่อมสภาพได้ โดยทำให้หนังเกิดซีดจาง และแตกแห้ง แนะนำให้ปิดผ้าม่านหรือมู่ลี่เพื่อป้องกันแสงแดดโดยตรง และหมุนเฟอร์นิเจอร์เป็นประจำเพื่อให้ทุกด้านได้รับแสงแดดเท่าๆ กัน . 3. ใช้ผ้าคลุมเฟอร์นิเจอร์ ผ้าคลุมเฟอร์นิเจอร์เป็นวิธีง่ายๆ ในการปกป้องเฟอร์นิเจอร์ของคุณจากฝุ่นละออง ความชื้น และแสงแดด แนะนำให้เลือกผ้าคลุมที่ทำจากวัสดุระบายอากาศได้ดี เช่น ผ้าฝ้าย หรือลินิน . 4. ทำความสะอาดเป็นประจำ ผลกระทบสำคัญของความชื้น คือเชื้อรา โดยเฉพาะในบริเวณที่แสงมักจะส่องไม่ค่อยถึง อากาศไม่ถ่ายเท จึงทำให้ เฟอร์นิเจอร์โดยเฉพาะประเถทตู้เสื้อผ้าจึงกลายเป็นมุมที่เชื้อราสามารถเจริญเติบโตได้ดี เพราะทั้งมืด ทั้งอับ และไม่มีอากาศที่ถ่ายเทอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันไม่ให้เฟอร์นิเจอร์ของคุณมีเชื้อราขึ้นการทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์เป็นประจำเป็นวิธีที่ดี วิธีการทำความสะอาดคือใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ มาเช็ดรอบแรกก่อน หากกรณีพบว่าเฟอร์นิเจอร์มีคราบเชื้อราฝังแน่นก็ให้ใช้กระดาษทรายขัดแล้วเช็ดออก และหลังจากนั้นให้ใช้น้ำส้มสายชู หรือสบู่เหลวผสมกับน้ำเปล่าในขวดสเปรย์นำมาฉีดพ่นลงไปให้ทั่วบริเวณที่เกิดเชื้อราทิ้งไว้ให้แห้งสนิท นี่เป็นเคล็ดลับในการป้องกันการกลับมาของเชื้อราค่ะ . 5. ซ่อมแซมความเสียหายเล็กน้อย หากคุณสังเกตเห็นความเสียหายเล็กน้อย เช่น รอยขีดข่วน รอยบุบ การบิดเบี้ยวให้ซ่อมแซมโดยเร็วที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายมากไปกว่าเดิม คุณสามารถใช้ชุดซ่อมเฟอร์นิเจอร์ หรือปรึกษาช่างซ่อมเฟอร์นิเจอร์มืออาชีพเพื่อจัดการสิ่งเหล่านี้ก่อนจะเข้าฤดูหนาว หรือหากยังไม่มีความเสียหายคุณก็สามารถที่จะบำรุงดูแลความยืดหยุ่นของผิวเฟอร์นิเจอร์ ด้วยการทาสารเคลือบเงาไว้เสมอก็เป็นเรื่องที่ดีค่ะ .