ปี 2024 ปีแห่งการผสมผสานความคลาสสิกของธรรมชาติ และนวัตกรรมแห่งเทคโนโลยี เพื่อปรับให้เข้ากับสไตล์ชีวิตสมัยใหม่ที่รวดเร็วเปลี่ยนแปลง การตกแต่งบ้านจะไม่เพียงแค่เป็นการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ หรือของตกแต่งเพื่อให้เกิดความสวยงาม แต่ยังเป็นการสร้างพื้นที่ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ ด้วยการผสมผสานนวัตกรรม และความคลาสสิคควบคู่กันตามยุคสมัยเพื่อไปสู่การใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน ภาพรวมของเทรนด์ในปีนี้จะเป็นอย่างไร ไปติดตามอ่านกันค่ะ
.
1. บ้านยุคใหม่เน้นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
การใช้งานวัสดุตกแต่งที่ยั่งยืนเป็นเทรนด์โลกที่เน้นให้ความสำคัญกับความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น รวมถึงการให้ความสำคัญกับการลด Carbon Footprint ดังนั้นสิ่งแวดล้อมจะมีบทบาทที่สำคัญมากในการเลือกใช้วัสดุในการตกแต่งบ้าน วัสดุการออกแบบตกแต่งที่มีความทนทาน และสามารถ รีไซเคิลได้จะมีความนิยมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นไม้สังเคราะห์ เฟอร์นิเจอร์ รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล และสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้เรื่อยๆ เป็นสิ่งยืนยันถึงความเอาใจใส่ธรรมชาติกันมากขึ้น โครงสร้างที่อยู่อาศัยก็จะมีการดีไซน์ให้บ้านสามารถรับแสงจากธรรมชาติได้ดีมากขึ้น รวมถึงการใช้การทดแทนพลังงานด้วยโซล่าเซลล์
เฟรมอลูมิเนียมลายไม้ หรือเฟรมลายไม้ เกิดจากการใช้เทคโนโลยีการผลิตด้วยการนำเฟรมเส้นมาทำการชุบผิวสีแบบอโนไดซ์ (Anodizing) เพื่อทำให้สีเฟรมมีลวดลายเหมือนเนื้อไม้ธรรมชาติแต่ละประเภท เช่น ลายไม้สักทอง ลายไม้เมเปิ้ล ฯลฯ ซึ่งนอกจากจะมีความสวยงามแล้วยังให้ความรู้สึกของผิวสัมผัสคล้ายไม้ด้วย และในแง่ของประโยชน์การใช้งาน เฟรมอลูมิเนียมก็สามารถตอบโจทย์ในเรื่องของความคุ้มค่าในระยะยาว เพราะอลูมิเนียมมีคุณสมบัติข้อดี คือ มีน้ำหนักเบาเพียง 1 ใน 3 เท่าของเหล็กแต่แข็งแรง ทนทาน และไม่เป็นสนิม อลูมิเนียมสามารถดัดโค้ง ขึ้นรูป กลึง เจาะ เชื่อมได้ง่าย ทั้งยังไม่ต้องเจอกับปัญหาปลวกกิน เหมือนการใช้ไม้ และเมื่อเจอกับความชื้นก็จะไม่มีปัญหาบิด หรือโก่งงอ
.
2. SMART HOME สุดล้ำด้วยเทคโนโลยี
เทคโนโลยีจะเข้ามาสร้างความสะดวกสบายในทุกมุมของบ้าน ระบบอัตโนมัติที่ควบคุมด้วยเสียง หรือสมาร์ทโฮมที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์มือถือจะกลายเป็นส่วนสำคัญของการตกแต่งบ้าน การผสมผสานเทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแค่สร้างความสะดวก แต่ยังเสริมสร้างความสวยงามและความทันสมัยในบ้านอีกด้วย อุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้านจะสามารถสั่งการได้ผ่านระบบมือถือ ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมไฟฟ้าในบ้านด้วยแอปพลิเคชัน การสั่งงานเปิดประตู เปิดเครื่องปรับอากาศด้วยเสียง หรือระบบความปลอดภัยแบบสแกนใบหน้า รับรองว่าใครนำเทคโนโลยีมาใช้นอกจากจะอินเทรนด์แล้ว ยังทำให้บ้านมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
กล่องดิจิตอลเก็บของมีค่า เพิ่มความปลอดภัยด้วยการปลดล็อคระบบสแกนนิ้ว สามารถชาร์จแบตเตอรี่ด้วยการเชื่อมต่อ USB (Type c) หรือใช้ถ่าน AA
.
3. สมดุลระหว่างความหรูหรา และการใช้ชีวิต
มีการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัย เป็นตัวสะท้อนทั้งรสนิยม ความหรูหรา และสวยงาม เข้ากับความเรียบง่ายภายใต้ธรรมชาติที่รายล้อมการผสมผสานระหว่างความหรูหรา และการใช้ชีวิตที่สะดวกสบายจะเป็นที่นิยมมากขึ้นไปเรื่อยๆ จะมีการนำเฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งที่มีดีไซน์ทันสมัย รวมถึงมีฟังก์ชันนวัตกรรมมาใช้ในการออกแบบตกแต่งภายใน เป็นการนำเข้าความสมดุลที่สวยงามโดยที่ยังตอบโจทย์ทุกฟังก์ชันของบ้าน
.
4. บ้านสไตล์ Maximalism กำลังจะกลับมา
สไตล์บ้าน 2023 จะเห็นได้ว่า การแต่งบ้านแนวมินิมอลมาแรงมาก แต่ในปี 2024 บ้านสไตล์แมกซิมอลกำลังจะกลับมา จะเป็นเทรนด์ที่ฉีกสไตล์ไปจากมินิมอลอย่างสิ้นเชิง เพราะมันคือการแต่งบ้านแบบ More is more เป็นแบบที่เอาใจคนที่ชอบความจัดเต็ม สไตล์การแต่งบ้านแบบ แม็กซิมอลลิสต์ (Maximalist) เป็นสไตล์ที่ตอบโจทย์ผู้คนที่โหยหาสีสันในชีวิต เป็นสไตล์ที่จะช่วยเปลี่ยนบรรยากาศ ของที่อยู่อาศัยโดยเพิ่มความสดใส ความเป็นตัวของตัวเอง นิยมเลือกใช้สีโทนเข้มหลากสีสัน เพราะมันช่วยสร้างความรู้สึกการอยู่อาศัยที่มีชีวิตชีวา และมีการเลือกใช้วัสดุหลากหลาย มามิกซ์แอนด์แมตช์กัน
.
5. กลับสู่ความ Luxury Style อีกครั้ง
จากปีที่แล้วที่เน้นการตกแต่งบ้านแบบสไตล์มินิมอล เจแปนดิ โทนสีไม้อ่อนมาแรงมาก ในปีนี้เทรนด์การแต่งบ้านในสไตล์หรูหราก็กลับมามีบทบาทอีกครั้ง แต่จะเป็นการกลับมาที่เชื่อมอารมณ์กับยุคสมัยใหม่ที่ใส่ใจเรื่องความยั่งยืน โดยจะเห็นว่ามีการใช้โทนสีครีมอ่อน เป็นเบสของการตกแต่ง ในส่วนของการใช้ของตกแต่งโลหะสีทอง สีเงิน ก็กลับมานิยมอีกครั้ง เพราะโลหะเหล่านี้เป็นตัวเพิ่มระดับความหรูหราในการตกแต่งภายในบ้าน ช่วยมอบความโดดเด่นได้ดี ทั้งนี้รูปแบบของ Style luxury ในยุคนี้จะเป็นสไตล์การตกแต่งห้องที่เน้นความหรูหรา แต่ก็จะเน้นไปที่ความเรียบง่ายด้วยเช่นกัน
.
6. ดีไซน์โค้งมนกำลังฮิต
เทรนเฟอร์นิเจอร์ 2023 คือ รูปทรงกลม ทรงมน เช่น โต๊ะกลม ประตูโค้งมนหรือโซฟาทรงโค้ง และในปี 2024 ดีไซน์โค้งมน ก็ยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่องมา ดีไซน์โค้งนี้มีเสน่ห์ เพราะจิตวิทยาของทรงเส้นโค้ง (Curves) สื่อถึงเรื่องของความรู้สึกที่สงบ สบาย เส้นโค้งยังมักถูกใช้กับอะไรที่ต้องการความรู้สึกอ่อนไหว นุ่มนวล เย้ายวน อาจเปรียบได้กับร่างกายของมนุษย์ หรือ ลักษณะรถยนต์ที่มี ส่วนเว้า ส่วนโค้ง แสดงถึงเสน่ห์ต้องการความหวือหวา ร่วมสมัย ดูต้องตาต้องใจ ดังนั้นแล้วเมื่อนำมาตกแต่งเข้ากับที่อยู่อาศัย จึงทำให้บ้านดูเรียบหรูทันสมัย แถมให้ความรู้สึกผ่อนคลาย และปลอดภัยได้ดี
.
7. การให้ความสำคัญกับพื้นที่พักผ่อนให้แก่บ้าน
เพราะสภาพอากาศในปัจจุบัน ทำให้คนนิยมพักผ่อนอยู่บ้านมากขึ้น การออกแบบที่มีพื้นที่ใช้สอยอย่างมีประสิทธิภาพจะเป็นเทรนด์ที่สำคัญ บ้านที่มีพื้นที่ที่เป็นระเบียบและสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยสร้างบรรยากาศที่โปร่งสบาย และมีชีวิต เพิ่มพื้นที่พักผ่อนทั้งภายในและภายนอก ไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่น หรือที่นั่งนอกบ้านอย่าง เช่นสวนเล็กๆ บรรยากาศลายล้อมด้วยธรรมชาติ ทั้งต้นไม้ บ่อปลา เน้นการใช้ต้นไม้ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับบ้าน ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายสบายตา และที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในการแต่งบ้านคือการปลูกต้นไม้ในห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือระเบียง
.
8. เน้นพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยงและธรรมชาติ
สไตล์การแต่งบ้านยุคใหม่นอกจากจะใส่ใจพื้นที่สีเขียว ยังมีการจัดสรรพื้นที่ให้กับสัตว์เลี้ยงมากขึ้น ตอนนี้กระแสผู้คนนิยมเลี้ยงสัตว์เลี้ยงกันมากขึ้น เห็นได้จากอัตราการเติบโตของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร สินค้า และบริการที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้น อาจเพราะชีวิตนอกบ้าน และการทำงานเคร่งเครียดมากขึ้นทุกวัน การกลับมาบ้านและได้เจอกับสัตว์เลี้ยง จึงกลายเป็นพื้นที่ปลอบใจให้สามารถพักผ่อนฮีลใจได้อย่างลงตัว ทำให้อีกหนึ่งเทรนด์การออกแบบตกแต่งบ้านที่ขาดไปไม่ได้เลย คือการตกแต่งเพิ่มพื้นที่ให้กับสัตว์เลี้ยง เช่น คอนโดแมว ห้องแมว บ้านสุนัข ผนังแมว ฯลฯ
.
9. พื้นที่บ้านสามารถปรับได้หลากหลาย
ด้วยกระแส Work from Home ที่ได้กลายเป็นค่านิยมของบางองค์กรในการให้บุคลากรทำงานอยู่ที่บ้าน ทำให้มีการออกแบบปรับพื้นที่บ้านให้มีเหมาะสมกับการทำงานได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น จากเดิมที่ใช้เพื่อการพักผ่อนเพียงอย่างเดียว แต่ในเทรนด์ปี 2024 การออกแบบพื้นที่ภายในบ้านจะมีการดีไซน์ให้มีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น เช่น เพิ่มพื้นที่อเนกประสงค์เพื่อให้ผู้อาศัยสามารถเปลี่ยนการใช้งานได้เอง เช่น ห้องนอน ห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น ห้องเด็ก ห้องออกกำลังกาย หรืออาจจะเป็นห้องรองรับผู้สูงอายุ รวมถึงมีการนำอุปกรณ์ Multifunction Space สำหรับเฟอร์นิเจอร์ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของคนในยุคใหม่ที่ต้องการให้เฟอร์นิเจอร์หนึ่งชิ้นมีฟังก์ชันมากกว่า 1 อย่าง
เป็นขาโต๊ะในกลุ่ม Tatami Lift สีดำ ปรับระดับความสูงได้ตามต้องการ ระบบยกขึ้นโดยอัตโนมัติ รองรับน้ำหนักได้ถึง 80 kg. ประหยัดพื้นที่ วัสดุแข็งแรง
- ขาโต๊ะปรับขึ้นลง (แบบกดรีโมท) No.BKC26.2
ขาโต๊ะปรับขึ้นลงได้ Tatami Electric Automation (แบบกดรีโมท) ประหยัดพื้นที่ วัสดุแข็งแรง ประกอบติดตั้งง่าย ปรับระดับความสูงได้ถึง 70cm.
- ขาโต๊ะปรับระดับ Tatami Lift (แบบใช้มือหมุน) No.BKC26.3
ขาโต๊ะปรับระดับ Tatami Lift (แบบใช้มือหมุน) แบบใช้มือหมุน ติดตั้งง่าย ใช้งานง่ายไม่ต้องเดินสายไฟ
