สไตล์ไฮเทค (Hi-tech Style) สิ่งมหัศจรรย์ของเทคโนโลยีในการออกแบบการตกแต่งภายในที่ทันสมัย (ตอนที่ 1)

สไตล์ไฮเทค คือ สไตล์สถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายในซึ่งมีต้นกำเนิดในปี 1980 โดดเด่นด้วยการใช้โครงสร้างแก้ว พลาสติกและโลหะแบบท่อ รวมทั้งแสงแบบกระจายศูนย์ สร้างเอฟเฟ็กต์ของห้องที่กว้างขวาง และมีแสงสว่างเพียงพอ

ลักษณะสี: ส้ม-ดำ, น้ำเงิน-เหลือง และ เงิน-เมทัลลิค มันเป็นสไตล์ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ระหว่างพื้นที่ และแสง รูปทรงของวัตถุและสีของวัตถุในสัดส่วนที่เหมาะสม ให้อารมณ์ความรู้สึกถึงบรรยากาศที่นิ่งสงบ

ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการออกแบบตกแต่งภายในใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย และสมัยนี้เราจะพบเห็นการออกแบบตั้งแต่โครงสร้างรวมถึงการตกแต่งภายในที่นำเอาเทคโนโลยีชั้นสูงมาใช้ทั้งในตึกอาคารสูง จนถึงบ้านอยู่อาศัย จนถึงในอพาร์ทเม้นท์ โดยภาพรวมสไตล์นี้จะเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนในเมือง เหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบงานปาร์ตี้ และเหมาะกับคนที่มีสไตล์เฉพาะตัว รวมถึงคนทันสมัยที่จินตนาการถึงชีวิตที่รายล้อมด้วยเทคโนโลยีแปลกใหม่ที่จะเปลี่ยนบ้านของเขาให้เป็นภาพจากอนาคต ที่สำคัญคือ การออกแบบสไตล์นี้สามารถใช้ได้แม้กระทั่งที่อยู่อาศัยขนาดเล็กอย่างเช่น คอนโด หรืออะพาร์ตเมนต์ ที่มีพื้นที่ขนาดเล็ก

บทความนี้ฟิวเจอร์เทคฯ ได้รวบรวมเอาข้อมูลเกี่ยวกับที่มา รวมถึงแนวทางที่เป็นเอกลักษณ์ของการตกแต่งสไตล์นี้มาให้ผู้อ่านได้ทราบกันค่ะ จุดเริ่มต้นของการนำเอาเทคโนโลยีชั้นสูงมาใช้ในวงการสถาปัตยกรรมเกิดขึ้นที่ประเทศแถบโซนอเมริกันในยุค 70 ด้วยความแปลกแหวกแนวในการตกแต่งซ่อมแซมอาคารที่พลิกภาพแนวทางที่เป็นรูปแบบดั้งเดิมอย่างชัดเจน จึงทำให้นักสถาปัตยกรรมชาวยุโรป  Pompidou
(ปงปีดู) ชาวฝรั่งเศส ที่ได้เห็นตัวอย่างของเทคโนโลยีชั้นสูงในการออกแบบอาคารของชาวอเมริกันในยุค 70 จึงเกิดความสนใจ และกลายเป็นผู้ปฏิวัติรูปแบบของการออกแบบตกแต่งภายใน ให้ไปทางทิศทางของ “สไตล์ไฮเทค” ให้ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ยุค 80 จนถึงทุกวันนี้ เรามาทำความเข้าใจกับรูปแบบการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสไตล์ไฮเทคกันดูค่ะ

.

หลักการเฉพาะตัวของการออกแบบตกแต่งภายใน สไตล์ไฮเทค

1. การตกแต่งภายในของไฮเทคนั้นจะโดดเด่นด้วยสีสันที่สดใส และเป็นโทนเย็น

2. การจัดแสงเป็นองค์ประกอบการออกแบบเฉพาะตัวที่สำคัญ ในอาคาร หรือในพื้นที่นั้นจะติดตั้งแผงไฟ และโคมไฟในตัวจำนวนมาก การจัดแสงจะเป็นการเน้นพื้นผิวของวัสดุที่ใช้ตกแต่งส่องแสงมากขึ้น

3. มีการออกแบบพิเศษโดยเฉพาะในส่วนของพาร์ทิชันที่ทันสมัยเพื่อแทนที่การใช้ประตูแบบธรรมดา หรือที่นิยมคือใช้ประตูกระจก

4. การตกแต่งภายในจะมีผนังอิฐเปลือยดิบคล้ายกับสไตล์ลอฟท์

5. เฟอร์นิเจอร์มีเส้นสายที่ปราดเปรียว และมีรูปร่างโค้งมน และไม่ใช้พื้นผิวที่ให้ความรู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติในการตกแต่งภายใน เช่น ไม่ใช้โซฟาหนังกลับ ไม่ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้เด็ดขาด

6. ภาพรวมการออกแบบจะมีความเรียบง่าย แต่จะมีโซลูชัน มัลติฟังก์ชันซ่อนอยู่ เช่น มีตู้เย็นซ่อนอยู่ในโต๊ะกลางของชุดรับแขก มีสวิตช์ไฟใต้ชั้นหนังสือ มีเครื่องชงกาแฟอยู่ข้างในโต๊ะพับ ฯลฯ

7. ของตกแต่งจะใช้วัสดุอุปกรณ์หลักที่มีรูปทรงต่างๆ รวมถึงวัสดุมีพื้นผิวที่มันวาว เช่น โลหะ โครเมี่ยม อลูมิเนียม แก้ว และพลาสติก หรือ สามารถใช้วัสดุตกแต่งอื่น ๆ ที่ให้คุณสมบัติเหมือนพื้นผิวของโลหะ หรือแก้ว เช่น กระจกได้

ลักษณะเฉพาะในการออกแบบตกแต่งพื้นที่ต่างๆ ภายในบ้านของสไตล์ไฮเทค

  • ผนัง/หน้าต่าง สไตล์ไฮเทค

   วอลล์เปเปอร์ และผ้าม่าน คือสิ่งที่สไตล์นี้จะไม่ใช้ สไตล์ไฮเทคจะไม่มีรูปแบบการตกแต่งที่ใช้วัสดุหรืออุปกรณ์ที่เก็บฝุ่น

  • กำแพงตามสไตล์ไฮเทคไม่จำเป็นต้องตกแต่ง ใดๆ สีที่ใช้นิยมเป็น สีอ่อน  เบจ  ทราย ครีม  ขาว หรือบางส่วนของพื้นที่สามารถปล่อยผนัง

   ให้เปลือยเปล่ามีความดิบคล้ายกับสไตล์ลอฟท์ได้ ในส่วนของหน้าต่างจะใช้เป็นมู่ลี่เพื่อควบคุมปริมาณแสงในห้องแทน

• ห้องนอนสไตล์ไฮเทค

   ตามหลักการไฮเทค ห้องนอนจะเลือกใช้เตียงที่มีการปรับหัวเตียงแบบอัตโนมัติ เป็นเตียงที่ไม่มีขาและมีไฟส่องสว่างจากด้านล่างเตียง สามารถมีโต๊ะข้างเตียงได้แต่ต้องไม่ใช่วัสดุที่ทำจากไม้ คุณอาจเลือกใช้เป็นโต๊ะอะคริลิก ที่มีดีไซน์ล้ำสมัย พร้อมวางโคมไฟที่สามารถควบคุมแสงสว่างได้ ระบบไฟฟ้าที่ให้ความสว่างในห้องจะเก็บซ่อนอยู่หลังพาร์ติชันในผนัง หรือซ่อนอยู่หลังเฟอร์นิเจอร์ ติดตั้งทีวีแบบติดผนัง สีสันในห้องนอนจะต้องเลือกใช้สีจะไม่เป็นรบกวนแสง และเป็นสีที่สร้างแรเงาบนผนังได้เช่น สีม่วง, น้ำเงิน, เทาอ่อน  กรณีห้องนอนในส่วนหน้าต่าง สามารถปิดด้วยผ้าม่านแบบหนาโดยใช้ระบบอัตโนมัติได้

.

• ห้องครัวสไตล์ไฮเทค

   ทิศทางในการตกแต่งภายในห้องครัวจะเน้นการใช้เครื่องใช้ในครัวเรือนที่ทันสมัย มีการติดตั้งกระจกเป็นจำนวนมาก เพื่อให้มีบรรยากาศโปร่งใส หัวใจสำคัญของการออกแบบจะต้องตอบโจทย์เรื่องความสวยงามกับการใช้งานจริง และรวมถึงความทนทาน การเลือกวัสดุปูพื้น ควรเลือกใช้กระเบื้อง หรือวัสดุที่มีผิวมันมากกว่า หากชอบกระเบื้องที่มีลวดลาย เรขาคณิตเท่านั้นที่เหมาะสำหรับสไตล์ไฮเทค เทคนิคคือ การใช้เฉดสีตัดกันที่ชัดเจนจะนำความแปลกใหม่มาสู่การตกแต่งภายในที่เป็นเอกลักษณ์ของสไตล์นี้

.

ห้องน้ำสไตล์ไฮเทค

   วัสดุที่ให้ความโปร่งใสในห้องน้ำเป็นเอกลักษณ์หนึ่งของการออกแบบห้องน้ำสไตล์ไฮเทค อ่างล้างมือที่ทำจากพลาสติกโพลีเมอร์ที่ดูโปร่งใสพร้อมบุด้านในเคลือบโครเมี่ยม โทนสีเช่น สีฟ้า ขาว ดำ จะทำให้เกิดความล้ำสมัยแปลกตา ดวงไฟนีออนส่องสว่างที่ซ่อนตามแนวผนัง อุปกรณ์เครื่องใช้ เช่น ฝักบัว กระจก กล่องทิชชู ฯลฯ ที่ทำจากพลาสติก หรืออะคริลิก สิ่งต่างๆ เหล่านี้ช่วยให้ห้องน้ำมีบรรยากาศลงตัวอย่างกลมกลืน

.

• ห้องนั่งเล่นสไตล์ไฮเทค

   ในห้องนั่งเล่นต้องมีพื้นที่อย่างเหมาะสม ควรมีโซฟา หรือเก้าอี้รอบโซฟาที่เก๋ไก๋ ปัจจุบันมีนักออกแบบที่ออกแบบโต๊ะที่มีชิ้นส่วนแก้ว และโลหะ สไตล์ล้ำสมัยให้เลือกใช้จำนวนมาก สามารถวางพรมบนพื้นได้แต่แนะนำให้เป็นลวดลายที่ดูปราดเปรียว และมีความโค้งมน สามารถติดผนังเป็นทีวีจอกว้างพิเศษโดยบุพื้นหลังของผนังให้ทำหน้าที่มีเป็นพื้นฟิลเลอร์ของจอทีวี สามารถมีตู้แขวน และโคมไฟที่มีดีไซน์สลับซับซ้อนเพื่อกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ และให้ความรู้สึกล้ำสมัย ติดตั้งในตำแหน่งไฟบน ไฟล่าง ไฟด้านข้าง

.

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ เราจะนึกภาพกันออกไหมว่าการออกแบบตกแต่งสไตล์ไฮเทค มันสามารถทำให้คุณได้สัมผัสถึงความล้ำนำสมัยในการใช้ชีวิตได้แค่ไหน อย่างไรก็ตามศิลปะร่วมสมัยของการออกแบบตกแต่งภายในมีหลักการของมัน แต่เราเองก็ไม่ได้จำเป็นจะต้องกำหนดกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดตามหลักการเสมอไป  สิ่งสำคัญคือบ้านของคุณสะท้อนทัศนคติของคุณ และคุณควรมำในสิ่งที่คุณจะรู้สึกสบายใจ และด้วยเหตุนี้ คุณสามารถเปลี่ยนอะไรก็ได้ หากหลักการบางอย่างของสไตล์นั้นไม่ถูกใจคุณ อย่างไรก็ตามคนน่าสนใจของสไตล์ไฮเทคยังไม่ได้หมดเพียงเท่านี้

 ฟิวเจอร์เทคฯ ขอเชิญชวนให้ติดตามอ่านต่อในบทความหน้านะคะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *