Author Archives: ฟิวเจอร์เทค

ชุดอุปกรณ์บานเลื่อนบานเฟี้ยม สำหรับเฟรมอลูมิเนียมเมื่อความสวยงามและการใช้งานมาบรรจบกันอย่างลงตัว และนี่คือหัวใจของชุดอุปกรณ์บานเลื่อน บานเฟี้ยมสำหรับเฟรมอลูมิเนียม SDF12 ที่ฟิวเจอร์เทคฯอยากให้คุณรู้จัก… ในยุคที่พื้นที่มีค่า การออกแบบเฟอร์นิเจอร์จึงต้องตอบโจทย์ทั้งความสวยงามและการใช้งานที่ชาญฉลาด ชุดอุปกรณ์บานเลื่อนบานเฟี้ยม SDF12 จึงถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างลงตัวค่ะ . ทำไมต้องเลือกบานเฟี้ยม? ห้องครัวในคอนโดใจกลางเมือง ห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ทำงาน หรือแม้แต่ห้องแต่งตัวในบ้านเดี่ยวหลังขนาดกลาง… ทุกตารางนิ้วมีค่า และเฟอร์นิเจอร์ต้องออกแบบให้ใช้งานได้หลากหลายโดยไม่เพิ่มความหนาแน่น หรือรบกวนสายตา หลายคนคงเคยประสบปัญหา เวลาเปิดตู้ หรือบานซ่อนเปิดไม่สุด หยิบของไม่สะดวก ชุดอุปกรณ์บานเลื่อน บานเฟี้ยมนี้ใช้แนวคิด “บานพับที่พับเก็บได้” ทำให้หน้าบานพับเข้าหากันแล้วเลื่อนเปิดไปด้านข้างอย่างนุ่มนวล โดยไม่ต้องเว้นพื้นที่หน้าตู้มากเท่ากับบานเปิดแบบปกติ เมิ่อนำมาประกอบกับหน้าบานเฟรมอลูมิเนียมจะได้เฟอรืนิเจอร์ที่ดูเรียบหรู มินิมัล และสร้างความรู้สึกหรูหราราวกับเป็นงานสั่งทำพิเศษ . . ระบบ Soft Close และ Silent Slide ฟังก์ชันที่ไม่เป็นเพียงกลไก แต่คือสิ่งที่ตอบโจทย์ในความรู้สึก…เสียงเปิด-ปิดของบานตู้ทั่วไปอาจดูเป็นเรื่อง   ที่คุ้นเคยในประสบการณ์ของหลายคน แต่เราสามารถสร้างโมเม้นท์พิเศษให้กับใช้ชีวิตในทุกพื้นที่ได้ไม่เว้นแม้กระทั่งการใช้งานตู้เฟอร์นิเจอร์  ด้วยคุณค่าของฟังก์ชันนี้ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์แค่เรื่องของเสียง หรือการสัมผัสที่นุ่มนวล แต่มันสะท้อนถึง “ความใส่ใจในรายละเอียด” ซึ่งคือหัวใจของการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ในยุคปัจจุบัน Soft Close : บานปิดนุ่มนวล ลดแรงกระแทก ถนอมอุปกรณ์และป้องกันอุบัติเหตุ เช่น มือของเด็กเล็กที่อาจเผลออยู่ใกล้ขณะปิดSilent […]

“เราไม่ได้ออกแบบแค่ ‘ครัว’ แต่เราออกแบบวิธีที่คุณจะมีปฏิสัมพันธ์กับบ้านของคุณ โดยไม่ต้องแม้แต่เอื้อมมือ” คุณเคยเจอปัญหาตอนใช้งานครัวไหมเช่น หยิบของจากตู้สูงไม่ถึง มือเปียกแต่ต้องไปเปิดตู้ หรือต้องยืนเก้าอี้เพื่อหยิบของจากข้างบน ปัญหาเหล่านี้ดูเล็กแต่เกิดขึ้นบ่อยมาก โดยเฉพาะในบ้านที่มีผู้สูงอายุหรือเด็กเล็ก ชุดชั้นปรับขึ้น-ลงอัจฉริยะ รุ่น No.554000900 ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้โดยตรง “เทคโนโลยีที่ไม่รบกวนชีวิต แต่ขยับไปพร้อมกันกับคุณ” ใครว่าเทคโนโลยีต้องเสียงดัง ซับซ้อน หรือดู “ขัด” กับบ้านแนวอบอุ่น? อุปกรณ์นี้คือตัวอย่างของนวัตกรรมที่ล้ำแต่ “เงียบงัน” มันซ่อนอยู่หลังบานตู้ และทำงานเมื่อคุณต้องการเท่านั้นด้วยระบบสั่งการด้วยเสียง ไม่ต้องแตะ หรือกดปุ่มใดๆ เลย แม้มือจะเปื้อนแป้ง ไข่ หรือซอส ก็ไม่เป็นอุปสรรคในการใช้งาน ไม่ว่าคุณจะกำลังจัดจาน ทำซอส หรือกำลังอุ้มลูกน้อยอยู่ ระบบนี้ก็จะ “เข้าใจ” คุณโดยไม่ต้องแตะใดๆ เรียกว่าในบ้านที่มีชีวิตชีวา นวัตกรรมที่สามารถขยับตามจังหวะการใช้ชีวิตของคนในบ้านได้ . . “สัมผัสเดียว… แล้วห้องครัวจะกลายเป็นพื้นที่แสดงศักยภาพของบ้านทั้งหลัง” นอกจากระบบเสียง ชุดชั้นปรับขึ้น-ลงอัจฉริยะยังมีระบบสัมผัสที่ไวต่อการแตะเบาๆ จากฝ่ามือโดยที่ไม่ต้องออกแรงกด ที่มุมล่าง ชั้นจะเลื่อนขึ้น-ลงเงียบๆ ไม่มีเสียงรบกวน ไม่สะดุด กระชาก และเลื่อนในจังหวะที่พอดี ไม่เร็วเกินไป ไม่ช้าเกินไป […]

ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตระจำวัน การออกแบบบ้านก็ต้องตอบรับกับความต้องการที่เปลี่ยนไป บานเลื่อนไฟฟ้าแบบเปิดคู่ หรือ Automatic Synchlighting System ซึ่งผสานความสะดวกสบายเข้ากับความงามของงานออกแบบได้อย่างลงตัว และเมื่อนำมาประยุกต์ใช้ร่วมกับกระจกใสทั้งบาน งานดีไซน์จะยิ่งสะท้อนภาพลักษณ์ทันสมัยที่มีความคล้ายคลึงกับประตูอัตโนมัติของห้างสรรพสินค้า แต่ในขณะเดียวกันก็เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการใช้ภายในที่พักอาศัย ด้วยฟังก์ชันที่สามารถสั่งการได้หลายรูปแบบ ประหยัดพื้นที่ และรองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว . ความสามารถในการควบคุมที่หลากหลาย และยืดหยุ่น บานเลื่อนไฟฟ้านี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการควบคุมที่หลากหลายตามลักษณะการใช้งานของผู้พักอาศัย ฟีเจอร์เหล่านี้ยังช่วยลดการสัมผัสพื้นผิวให้น้อยที่สุด จึงเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการดูแลสุขอนามัยภายในบ้านโดยเฉพาะในยุคหลังโควิด-19 . โครงสร้างระบบ และความสามารถในการรับน้ำหนัก อุปกรณ์นี้มีโครงสร้างระบบไฟฟ้าที่มีความแข็งแรงได้มาตรฐานรองรับน้ำหนักได้ถึง 60 กิโลกรัมต่อบาน ผู้ใช้สามารถสั่งตัดกระจกหน้าบานให้มีความกว้างและความสูงตามต้องการ ทั้งนี้การออกแบบขนาดหน้าบานควรมีความกว้างไม่น้อยกว่า 60 เซนติเมตรเพื่อให้มีพื้นที่ติดตั้งชุดโช็ค และรางด้านบนซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนบานเลื่อน . . กระจกที่แนะนำให้ใช้งานร่วมกับระบบนี้ . การประยุกต์ใช้งานในพื้นที่ต่างๆของบ้าน 1. กั้นระหว่างห้องนั่งเล่น และห้องครัว เหมาะสำหรับบ้านที่ต้องการพื้นที่โล่ง (Open Plan) แต่บางครั้งต้องการแยกพื้นที่เช่นเมื่อประกอบอาหารและไม่ต้องการให้กลิ่นลอยเข้าไปในห้องนั่งเล่น หรือสร้างความเงียบสงบขณะพักผ่อน 2. ห้องทำงานภายในบ้าน ในยุคที่การทำงานจากบ้านกลายเป็นเรื่องปกติ การมีห้องทำงานที่แยกออกมาได้เมื่อต้องการความเป็นส่วนตัว แต่เปิดเชื่อมต่อกับพื้นที่หลักได้เมื่อไม่ใช้งาน จะช่วยให้บ้านดูกว้างขวางกว่า 3. ห้องแต่งตัว และห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ สำหรับบ้านที่มี Walk-in […]

ปี 2569 เป็นปีมะเมียธาตุไฟหยาง พลังงานจะเคลื่อนไหวเร็ว ชัดเจน และมีแรงผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งในเรื่องงาน ชีวิตและความสัมพันธ์ พลังของปีนี้ส่งผลโดยตรงต่อบ้านซึ่งเปรียบเหมือนร่างกายอีกชุดหนึ่งของผู้อยู่อาศัย หากบ้านรับพลังงานได้ดี ชีวิตก็จะเคลื่อนอย่างมั่นคงและมีทางออกชัดเจน แต่ถ้าบ้านอุดตันหรือขวางพลังงานไว้ ก็จะเกิดอาการติดขัดตั้งแต่ความรู้สึกไม่สบายใจไปจนถึงปัญหาการเงินหรือความสัมพันธ์สะดุดโดยไม่ทราบสาเหตุ เพื่อให้บ้านรับพลังงานปี 2569 ได้เต็มที่ การจัดวางพื้นที่ การเลือกสีและวัสดุ รวมถึงการสร้างความโปร่งโล่งภายในบ้านจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง มาดูกันว่ามีจุดไหนที่สามารถปรับเปลี่ยนให้สอดรับกับฮวงจุ้ยได้บ้าง . พลังมะเมียไฟหยางกับบ้าน นี่คือจุดที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ มะเมียเป็นพลังของการขยายตัว ส่วนไฟหยางคือความกระจ่าง ความชัดเจน และการเคลื่อนไหวที่ต่อเนื่อง เมื่อรวมกันจึงเกิดเป็นปีที่ต้องการให้พื้นที่ในบ้านไหลลื่น โปร่ง และมีทิศทาง เส้นทางพลังงานต้องโล่ง ทางเดินในบ้านไม่ควรถูกขวางด้วยของวางสะเปะสะปะหรือเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ การเปิดเส้นทางให้พลังงานวิ่งอย่างอิสระช่วยให้ผู้อยู่อาศัยมีมุมมองชัดขึ้น ตัดสินใจได้เร็วขึ้น และรู้สึกโปร่งขึ้นทั้งในความคิดและอารมณ์ ควรจัดการซ่อมแซมพื้นที่ที่เดินแล้วสะดุด เพราะมันสะท้อนว่าชีวิตกำลังสะดุดเช่นกัน ที่สำคัญคือต้องเปิดรับแสงธรรมชาติ เพราะไฟหยางต้องการความสว่าง บ้านที่ถูกปิดทึบในปีนี้จะสะสมความอึดอัดได้ง่าย ผู้อยู่อาศัยจะรู้สึกแบกรับอะไรบางอย่างโดยไม่รู้เหตุผล การเปิดผ้าม่านให้รับแสงหรือปรับตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์ไม่ให้บังหน้าต่างจะทำให้บ้านมีชีวิตชีวาและช่วยให้พลังของปีนี้เข้ามาเสริมได้เต็มที่ . . การปรับทิศบ้านตามดาวประจำปี 2569 ปีนี้บ้านแต่ละทิศควรจัดออกแบบให้มีทิศทางที่ชัดเจน ทิศทางในที่นี้หมายถึงการไหลไปข้างหน้าของพลังงาน คือมีพื้นที่ที่ทำให้ผู้เข้ามาเดินแล้วรู้ว่าต่อไปควรไปทางไหน สื่อถึงชีวิตที่มีเป้าหมายและความมั่นคง ส่วนพื้นที่ ที่เดินแล้วงง ไม่มีจุดนำสายตาอาจสะท้อนให้เกิดความลังเลหรือความไม่แน่นอนในเรื่องสำคัญของปีนี้ ตามหลักดาวเหิน ทิศต่างๆ ของบ้านจะได้รับพลังไม่เหมือนกันในแต่ละปี […]

“เพราะแสงไม่ใช่ของเสริม แต่คือภาษาของบ้านยุคใหม่ ภาษาที่เล่าถึงความรู้สึก ความตั้งใจ และตัวตนของผู้อยู่อาศัยได้โดยไม่ต้องใช้คำพูดเลยแม้แต่น้อย” ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อน เวลาพูดถึงการตกแต่งบ้าน คนส่วนใหญ่จะนึกถึงเฟอร์นิเจอร์ ผนัง วัสดุปูพื้น หรือผ้าม่านเป็นหลัก แสงไฟมักถูกมองว่าเป็นสิ่งที่จัดการทีหลังหลังจากบ้านเสร็จแล้ว แต่ในวันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป ในวงการออกแบบตกแต่งภายในยุคใหม่ แสงกลายเป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักที่นักออกแบบให้ความสำคัญตั้งแต่เริ่มวางคอนเซ็ปต์ เพราะแสงไม่ได้เป็นแค่เรื่องของการมองเห็นอีกต่อไป แต่คือภาษาที่ใช้เล่าเรื่องของพื้นที่ ถ่ายทอดอารมณ์ และขับเน้นบุคลิกของบ้านให้มีชีวิต มาดู 7 เหตุผล ที่นักออกแบบยุคใหม่นิยมใช้แสงเป็นองค์ประกอบกัน . 1. จากแสงเพื่อใช้งาน สู่แสงเพื่อสร้างอารมณ์ เทรนด์การใช้แสงในปัจจุบันเปลี่ยนจากการมุ่งให้ความสว่างไปสู่การออกแบบเพื่อสื่อสารความรู้สึก แสงเป็นเครื่องมือที่ช่วยเล่าเรื่องของพื้นที่ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นความสงบ อบอุ่น ลึกลับ หรูหรา หรือแม้แต่ความเรียบง่ายที่มีชั้นเชิง ในพื้นที่ ที่ต้องการแสงน้อย แสง Warm white อุณหภูมิแสง 3000K เช่นห้องนั่งเล่น ในห้องนอนซ่อนหลังหัวเตียง รีสอร์ท โรงแรม งานตกแต่ง ที่สะท้อนบนพื้นไม้ช่วยให้บรรยากาศดูอบอุ่นและผ่อนคลาย ช่วยให้สมองรู้ว่าถึงเวลาพัก . . ในห้องครัว แสงสีขาวนวล Cool white อุณหภูมิแสง 4000K […]

บ้านคือภาพสะท้อนของจิตใจในปัจจุบัน ทุกครั้งที่เราก้าวเข้าบ้าน สิ่งที่เห็นตรงหน้าไม่ใช่แค่ของใช้ เฟอร์นิเจอร์ หรือพื้นที่ว่าง แต่มันคือภาวะภายในของเจ้าของบ้านที่ถูกฉายออกมาผ่านสิ่งแวดล้อมทางกายภาพอย่างซื่อตรงที่สุด Clare Cooper Marcus ผู้เขียนหนังสือ “House as a Mirror of Self: Exploring the Deeper Meaning of Home” ได้ตีความบ้านว่าเป็นภาพสะท้อนตัวตนภายใน เธออธิบายว่าการตกแต่งและจัดบ้านเป็นวิธีที่มนุษย์ใช้เล่าเรื่องชีวิตของตัวเอง ซึ่งตรงกับนักจิตวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบภายในหลายคนที่บอกตรงกันว่า การจัดหรือไม่จัดบ้านล้วนบอกเล่าความสัมพันธ์ที่เรามีกับตัวเองได้อย่างลึกซึ้ง ในความเป็นจริงที่หลายคนอาจเคยรู้สึกได้คือ พื้นที่แต่ละมุมของบ้านนั้นไม่เหมือนกัน บางมุมสามารถเยียวยาใจหรือกระตุ้นความเครียดได้ไม่ต่างจากคำพูดของคนคนหนึ่งเลย บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจมุมมองทางจิตวิทยาว่า บ้านที่เป็นระเบียบและไม่เป็นระเบียบนั้นสะท้อนถึงอะไร พร้อมคำแนะนำที่นำไปปรับใช้ได้ . . บ้านที่เป็นระเบียบ ความสงบที่ต้องแลกด้วยการควบคุม บ้านที่ทุกอย่างอยู่ในที่ของมันเสมอ ผ้าพับเป็นชั้นตรงราวกับเส้นไม้บรรทัด พื้นสะอาดจนแทบไม่มีฝุ่น และกล่องเก็บของที่มีป้ายระบุหมวดหมู่ชัดเจน ทั้งหมดนี้ให้ความรู้สึกสงบ ปลอดภัย และมั่นคง จากมุมมองทางจิตวิทยา ความเป็นระเบียบมักสัมพันธ์กับความต้องการควบคุม (Need for Control) และความรู้สึกมั่นคงภายใน คนที่จัดบ้านดีมักมีระบบความคิดเป็นลำดับขั้น รักความชัดเจน และต้องการพื้นที่ที่ช่วยให้จิตใจไม่กระเจิงไปตามสิ่งรอบตัว เมื่อทุกอย่างอยู่ในที่ของมัน พวกเขาจะรู้สึกว่าชีวิตอยู่ในการดูแลของตัวเอง ไม่ต่างจากการบอกตัวเองว่าฉันยังควบคุมบางสิ่งได้ […]