หากพูดถึงฤดูฝน เชื่อว่าคงเป็นฤดูที่ใครหลายๆ คนอาจค่อยชอบ โดยเฉพาะปัญหาความเฉอะแฉะ และในส่วนของบ้านที่อยู่อาศัย ปัญหาทางด้านความชื้นที่มักเกิดกับเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ภายใน และภายนอกบ้าน โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ที่มีองค์ประกอบเป็นไม้ รวมทั้งประตูบ้านก็อาจได้รับผลกระทบจากความชื้น ที่ทำให้เกิดความเสียหาย มีประสิทธิภาพการใช้งานไม่ดี มีปัญหาฝืดเคือง บวม บิด ขึ้นรา ในบทความนี้ฟิวเจอร์เทคฯ ได้รวบรวมเอาวิธีง่ายๆ ที่คุณผู้อ่านสามารถทำได้ด้วยตัวเองในการดูแล ป้องกัน แก้ไขปัญหาของ ประตู หน้าต่าง และเฟอร์นิเจอร์ไม้ ให้สามารถใช้ได้อีกยาวนานผ่านหน้าฝนไปได้ด้วยดีกันนะคะ
.
1. เก็บเฟอร์นิเจอร์ไม้ให้อยู่ในที่แห้ง
ในช่วงหน้าฝน หากดูพยากรณ์อากาศแล้วว่าจะมีฝนตก ให้นำเฟอร์นิเจอร์ไม้เก็บให้พ้นน้ำ เพราะเฟอร์นิเจอร์ไม้มักจะผุ หรือบวมได้ง่าย หรือถ้าไม่มีที่เก็บ อาจจหาผ้าใบคลุมไว้ เมื่อฝนหยุดก็ให้เช็ดทำความสะอาดส่วนที่เปียก หรือนำเฟอร์นิเจอร์ไม้ไปผึ่งระบายอากาศเมื่อแดดออก แต่แนะนำว่าให้เป็นแดดช่วงเช้า
.
2. หมั่นเช็ดทำความสะอาด
พวกเฟอร์นิเจอร์ไม้มักจะเปื้อน เป็นเนื้อวัสดุที่จับฝุ่นฝังลึกได้ง่าย หากเวลาฝนตกก็จะเป็นที่รวมความสกปรกติดเนื้อไม้ ยากที่จะขัดออก ดังนั้น จำเป็นต้องตรวจเช็ค และทำความสะอาดอยู่เสมอ โดยใช้ผ้าชุบน้ำสบู่แบบเจือจาง ชุบหมาดๆ แล้วผึ่งให้แห้งไวที่สุด มิเช่นนั้นไม้อาจจะบวมน้ำได้ครับ
.
3. ทาน้ำยาเคลือบผิวไม้ เคลือบสีไม้
การเคลือบน้ำยาแลคเกอร์ ทีคออยล์ / น้ำยาขัดเงา / น้ำยาเคลือบสีไม้ / ทากันรา อย่างที่ทราบกันว่า แลคเกอร์ หรือ ทีคออยล์ จะเป็นตัวเคลือบประตูไม้หรือประตูไม้สังเคราะห์ เพื่อช่วยปกป้องกันแสงแดดและน้ำฝน หากขาดการบำรุงรักษาจะเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว
ดังนั้น การใช้น้ำยาเหล่านี้เป็นวิธีการช่วยถนอม ยืดอายุการใช้งาน และป้องกันความเสียหายของเฟอร์นิเจอร์ไม้ได้ดี และหากแม้ว่าคุณจะไม่ค่อยมีเวลาดูแลเฟอร์นิเจอร์มากนัก แนะนำว่าอย่างน้อยให้ฉีดยาป้องกันปลวก มอด มด เพื่อไม่ให้แมลงต่างๆ มากัดกินเนื้อไม้ได้นะคะ
.
.
4. ใช้กระดาษทรายขัดรอยเปื้อน
หากไม้มีคราบฝังแน่นที่เช็ดไม่ออก ให้ใช้กระดาษทรายเบอร์ที่ละเอียดที่สุด ค่อยๆ ขัดเบาๆ เพื่อลบรอยเปื้อนออกจากเนื้อไม้ จากนั้นให้เคลือบด้วยน้ำยาเคลือบไม้ หรือขี้ผึ้ง แล้วเช็ดตามด้วยผ้าสะอาด
.
5. เปิดประตู หน้าต่าง เพื่อระบาย
หากในวันที่ฟ้าโปร่งมีแดด แนะนำให้เปิดประตูหน้าต่าง เพื่อระบายอากาศภายในบ้านไม่ให้มีกลิ่นอับชื้น พี่จะสืบเนื่องมาเป็นปัญหาของการมีเชื้อราเกาะตกเฟอร์นิเจอร์
.
6. กำจัดรา ออกจากเฟอร์นิเจอร์เนื้อไม้
กรณีที่เฟอร์นิเจอร์มีความชื้นในตัวมากเกินไป หากมีคราบ ราสีขาว หรือสีดำมาเกาะ ให้กำจัดเชื้อราโดยการใช้ผ้าชุบน้ำสบู่เจือจางมาเช็ดออก สารประกอบที่อยู่ในน้ำสบู่ จะมีตัวที่ป้องกันไม่ให้เชื้อรามาเกาะได้ง่าย
.
7. ติดกันสาด หรือรางน้ำฝน
การติดกันสาด หรือรางน้ำฝนเป็นตัวช่วยในการลดการเกิดน้ำฝนกระทบกับประตู ขอบหน้าต่าง เพื่อยืดอายุการใช้งานได้อย่างดี เพราะหากทิ้งประตูบ้าน หรือหน้าต่างไม้ให้ถูกน้ำฝนอย่างต่อเนื่องอาจจะทำให้เกิดปัญหาเรื่องเชื้อรา การผุกร่อน หรือการบวมของบานประตู บานหน้าต่างที่จะทำให้เกิดปัญหาการใช้งานเปิดปิด
.
8. DIY ทาสีประตูบ้านใหม่
กรณีที่ประตู หรือหน้าต่างมีการทาสี แนะนำให้ใช้สีที่มีคุณสมบัติของการกันน้ำได้ ถือเป็นการแต่งเติมสีประตูบ้านให้สวยเหมือนใหม่ และช่วยป้องกันประตู หน้าต่างจากน้ำฝนที่ตกมากระทบได้ดีด้วย
.
9. บานพับเกิดสนิม
หากบานพับถูกน้ำฝนแล้วเกิดทำให้ประตูฝืดจากสนิม ให้รีบทำความสะอาด หรือขัดออกด้วยกระดาษทราย หากยังไม่ดีขึ้นควรทำการเปลี่ยนบานพับเพื่อให้เปิด – ปิดประตูได้ตามปกติ
>>> อุปกรณ์บานพับสำหรับประตู
>>> อุปกรณ์บานพับถ้วยสำหรับตู้เฟอร์นิเจอร์
.
10. แก้ไขประตู เปิด – ปิดยาก
หากเจอกับปัญหาประตูฝืดเคือง เวลาเปิดปิดแล้วมีเสียงดังหาก เราสามารถแก้ไขได้ง่ายๆ คือ ให้ใช้น้ำมันหล่อลื่น ที่หาซื้อได้ตาม ร้านค้าวัสดุก่อสร้าง หรือตามห้างทั่วไป ฉีด หรือหยอดตามบานพับ ลูกล้อ ประตูจะเปิด – ปิดง่ายขึ้น และเงียบขึ้นอย่างเห็นได้ชัดทีเดียว
.
11. ขอบประตูบวม
หากประตู หรือหน้าต่าง เกิดปัญหาบวมไปแล้ว วิธีแก้ไขปัญหานี้คือ ให้ขัดขอบประตูหรือวงกบด้วยกระดาษทรายในตำแหน่งที่บวม วิธีนี้จะง่ายๆ ไม่ค่อยยุ่งยาก ขอเพียงหากระดาษทราย หรือผ้าทรายเบอร์หยาบๆ มาขัดข้างๆ ประตูและวงกบจะช่วยให้เอาเนื้อไม้ เนื้อประตูออกได้ง่ายเร็วขึ้น และหากต้องการปิดงานในบริเวณที่ขัดเนื้อไม้ออกแล้วให้สวยงาม สมบูรณ์แบบมากขึ้น อาจหาน้ำยาเคลือบมาทาทับหรือทาสีทับลงไปเท่านั้นเองค่ะ
.