1.แขวนแต่เสื้อผ้า ที่ต้องการใส่เท่านั้นตู้เสื้อผ้าของเรานั้น ไม่จาเป็นที่จะต้องแขวนเสื้อผ้าให้ครบทุกตัวก็ได้ คัดเฉพาะเสื้อผ้าที่ใส่บ่อยๆ หรือเสื้อผ้าที่จาเป็นต้องแขวนเพื่อรักษารูปทรง เพราะนอกจากจะทาให้หาเสื้อผ้าที่ต้องการได้ง่ายขึ้นแล้ว ยังช่วยลดปริมาณความหนาแน่นของเสื้อผ้าบนราวแขวนในตู้เสื้อผ้าได้และยังดูมีระเบียบอีกด้วย 2.เสื้อผ้าเมื่อไม่ใช้ ก็ขายไป ส่วนหนึ่งที่ต้องมีการจัดตู้เสื้อผ้า เหตุผลหนึ่งที่จะปฏิเสธไม่ได้ก็คือ เสื้อผ้านั้นมีจานวนที่มากเกินไปนั่นเอง ซึ่งวิธีที่ตัดปัญหาในส่วนนี้ก็คือ การเอาเสื้อผ้าที่ไม่ได้ใส่แล้ว นาไปขายเป็นเสื้อผ้ามือ 2 นอกจากระบายเสื้อผ้าในตู้แล้ว ยังสามารถทารายได้ให้กับผู้ขายอีกด้วย 3.ติดป้ายกากับการใช้งาน ควรแบ่งสัดส่วนในตู้เสื้อผ้าให้ออกมาตามการใช้งานเช่น ชุดนอน ชุดทางาน ชุดอยู่บ้าน เพื่อความสะดวกในการหยิบจับใช้งาน แล้วนาป้ายการใช้งานเสื้อผ้ามาติดไว้ตรงช่องแบ่งให้ถูกต้อง 4.นาเสื้อผ้าไปบริจาค เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการระบายเสื้อผ้าออกจากตู้ โดยแนะนาให้เลือกเสื้อผ้าที่เราไม่ใส่แล้วและยังมีสภาพดีอยู่แยกออกมา เพื่อนาไปบริจาคให้กับผู้ที่ยากไร้หรือตามมูลนิธิต่าง ๆ นอกจากจะเคลียร์เสื้อผ้าในตู้แล้ว ยังได้บุญอีกด้วย 5.ช้อนไม้แขวนเสื้อ 2 ชั้นโดยวิธีนี้เหมาะตู้เสื้อผ้าที่มีขนาดเล็กหรือถ้าหากว่าคุณไม่อยากเสียเสื้อผ้าไป ไม่ว่าจะเป็นการเอาเสื้อผ้าไปขายหรือการนาเสื้อผ้าไปบริจาคตามที่ทางเราได้เสนอไปนั้น ขอแนะนาอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บเสื้อผ้า โดยการเพิ่มพื้นที่แขวนเสื้อ ด้วยการนาหูกระป๋องที่ไม่ใช้แล้วคล้องไว้กับหัวไม้แขวนเสื้อแต่ละอัน เพียงเท่านี้ ก็จะได้ที่แขวนเสื้อผ้าอีกเยอะ 6.จัดช่องแบ่งประเภทชุดชั้นในในลิ้นชัก หากคุณเคยประสบพบเจอปัญหาชุดชั้นใน พันกันยุ่งเหยิง พาลให้อารมณ์เสีย อีกหนึ่งในวิธีแก้ที่ง่ายมากเลยคือ การทาช่องแบ่งประเภทชุดชั้นใน โดยอาจจะใช้แผ่นพลาสติกหรือกระดาษแข็งก็ได้ ซึ่งการทาแบบนี้จะทาให้ดูเป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้นและไม่ต้องคุ้ยหาอีกต่อไป เพิ่มประสิทธิภาพให้ตู้เสื้อผ้าของคุณ 7.เพิ่มชั้นวางของในตู้เสื้อผ้าใบเดิม ก็ได้ที่เก็บของเพิ่มขึ้น โดยการตั้งติดตั้งชั้นวางของเข้าไปในตู้เสื้อผ้า โดยอาจจะติดตั้งไว้บนราวหรือใต้ราวก็สุดแล้วแต่เจ้าของตู้เสื้อผ้า เพียงเท่านี้ก็จะชั้นวางของเพิ่มขึ้นมาในตู้เสื้อผ้าแล้ว […]