4 ฟังก์ชัน ระบบเปิด-ปิดบานตู้ ที่จะตอบโจทย์กับการใช้งานตู้ติดผนัง

บ้านส่วนใหญ่ใช้พื้นที่บริเวณผนังออกแบบตกแต่งโดยติดตั้งตู้แขวนเข้าไป เพื่อให้เกิดความสวยงาม และยังใช้ประโยชน์ ไปในตัว เพราะมันสามารถเพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้าวของ เครื่องใช้ ทำบ้านให้ดูเป็นระเบียบ สะอาดตาได้โดยที่ไม่กินพื้นที่ได้มากทีเดียว นอกเหนือจากดีไซน์ของตู้ที่จะเลือกใช้ตามชอบแล้ว ยังอยากให้คุณใส่ใจในเรื่องความสะดวก ฟังก์ชันการใช้งานเปิด-ปิด เพราะความสำคัญของตู้ที่มีตำแหน่งติดตั้งอยู่บนผนังซึ่งเป็นระยะการใช้งานจากที่สูงนั้น ความสามารถมองหา หรือหยิบจับหาสิ่งของได้อย่างสะดวกสบายเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงถึง เราควรเลือกสรรรูปแบบการเปิด-ปิดของตู้ให้ดี และในบทความนี้ฟิวเจอร์เทค ฯ จะมาแนะนำฟังก์ชันรูปแบบการเปิด-ปิดบานตู้ เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งาน และตรงใจไปได้นาน ๆ ไปติดตามอ่านกันได้เลยค่ะ

ฟังก์ชันรูปแบบการเปิด-ปิดหน้าบานตู้ประเภทต่าง ๆ

ฟังก์ชันที่ 1. แบบบานเลื่อน

ข้อดีของบานตู้แบบเลื่อนคือ สามารถเปิดใช้งานได้ในพื้นที่ที่จำกัด คือไม่ต้องใช้ระยะพื้นที่ในการเปิดหน้าบานให้กว้างออก ด้วยเหตุนี้เราจึง  จะเห็นว่าตามคอนโดมิเนียม ตามหอพัก และตามห้องพักขนาดเล็ก จะนิยมใช้บานเปิดแบบนี้ นอกจากนี้ เรายังสามารถเพิ่มฟังก์ชันเสริมอย่างการใส่บานกระจก หรือบานกระจกเงาเฟรมอลูมิเนียมเป็นหน้าบานตู้ ซึ่งเป็นดีไซน์ และสไตล์ที่จะช่วยเพิ่มความสวยงาม แถมพื้นที่ยังดูโปร่งโล่งมากขึ้นด้วย

.

ฟังก์ชันที่ 2. แบบกดกระเด้ง Push to Open

ฟังก์ชันการทำหน้าบานตู้ที่มีลักษณะการเปิดแบบกดกระเด้งไร้มือจับ เป็นอีกหนึ่งหน้าบานที่นิยมมากทีเดียว เพราะเปิด-ปิดง่ายโดยใช้แรงกด  ที่หน้าบานตู้ ซึ่งหน้าบานจะแง้มขึ้นก่อนสอดมือเปิดอีกครั้ง ฟังก์ชันนี้ไม่แนะนำให้ใช้กับตู้ที่ติดตั้งตำแหน่งสูงมากนัก เพราะการใช้แรงเอื้อมกดเปิดในแนวดิ่งเป็นลักษณะท่าทางการใช้งานที่ไม่สะดวกมาก

.

ฟังก์ชันที่ 3. แบบยกเปิด-ปิด ด้วยระบบสปริง

ตู้ประเภทนี้จะมีลักษณะการเปิดด้วยการแกว่งขึ้นด้านบน เหมาะสำหรับตู้ขนาดใหญ่ โดยใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่าบานพับที่มีสปริงในตัว ทำให้สามารถเด้งออกเองได้เวลาเปิด ซึ่งสปริงอาจมีจังหวะเปิดปิดแบบธรรมดา แบบจังหวะเดียว หรือ 2 จังหวะ และส่วนใหญ่จะมีระบบ Soft Close ทำให้สปริงไม่ดีด ทำให้การเปิด-ปิดไม่เกิดการกระแทก  สามารถใช้ฟังก์ชันการเปิด-ปิดแบบสปริงนี้ติดตั้งที่ขอบบานขนานตู้ได้ เรียกว่าตอบโจทย์การใช้งานพื้นที่แนวดิ่งที่ต่างกันได้ตามต้องการนั่นเอง

.

ฟังก์ชันที่ 4. บานยกเปิด-ปิด ด้วยระบบโช้ค

การเปิด-ปิดลักษณะดึงออก และดันเข้านี้เป็นวิธีที่ง่าย และสะดวก เพราะแค่ดึงหน้าบานออกมาเบาๆ ก็เปิดหน้าบานอ้าออกมาได้ลื่นปรื๊ด นุ่มนวล และเวลาปิดก็แค่ผลักเบาๆ ระบบโช้คก็จะค่อยๆ ทำการปิดตัวเองลงไปแบบช้า และนุ่มนวล ตัวอุปกรณ์ประเภทนี้เป็นกลุ่มประเภท บานพับแบบข้อศอก ซึ่งถือเป็นบานพับที่มีดีไซน์ที่แปลกตา มีความโมเดิร์น และมีลักษณะการเปิดที่แตกต่างจากบานพับประเภทอื่นๆ โดยสิ้นเชิง โดยลักษณะการเปิดจะเป็นในลักษณะเปิดขึ้นด้านบน หรือเปิดในลักษณะยกขึ้นด้านบน นิยมใช้งานกับหน้าบานตู้ลอย หรือตู้สูง โดยจะมีทั้งแบบข้อพับ และแบบโช้คอัพ สำคัญคือบานพับแบบนี้จะมีระบบช่วยในการเปิด-ปิด หรือระบบ Soft Close

.

อ่านมาถึงตรงนี้แล้วได้ไอเดียว่าฟังก์ชันแบบไหนที่น่าจะตอบโจทย์ตู้เฟอร์นิเจอร์ของคุณกันบ้างคะ อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหนที่คุณจะเลือกใช้ สิ่งสำคัญอีกเรื่องหนึ่งก็คือ อย่าลืมเลือกใช้อุปกรณ์เปิด-ปิดที่ได้มาตรฐาน มีความแข็งแรง ทนทาน เพื่อการใช้งานที่ตอบโจทย์ในระยะยาวกันด้วยนะคะ

Leave a Reply